ตู้ปันสุข

ผมดูซ้ำ ๆ หลายรอบ และบอกกับตัวเอง ว่า ผมจะไม่ยอมให้เรื่องดี ๆ แบบนี้ผ่านเลยไป

เช้าวันต่อมาผมหยิบข่าวนี้มาเล่าในรายการ “ขยี้ข่าวเช้า” ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 เพื่อบอกต่อเรื่องราวดี ๆ

เพื่อจะบอกว่า “ทุกคนทำได้”

จุดริเริ่ม “ตู้ปันสุข” มาจากเฟซบุ๊ค Supakit Bank Kulchartvijit ของคุณ “สุภกฤษ กุลชาติวิจิตร” ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด โพสต์ข้อความระบุว่า

"ได้รวมตัวกันในนามกลุ่มอิฐน้อย จัดตั้งโครงการ “THE PANTRY OF SHARING ตู้ปันสุข หยิบไปแต่พอดี ถ้าท่านมีใส่ตู้แบ่งปัน” เป็นการนำตู้ไปตั้งในชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้ชาวบ้านได้นำอาหารมาใส่ในตู้ แบ่งปันสำหรับผู้ขาดแคลนในช่วงไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด

แนวคิดดังกล่าวเป็นการประยุกต์มาจาก โครงการ “Free Pantry” ของต่างประเทศ

โดย “กลุ่มอิฐน้อย” เริ่มแรกมีการจัดตั้งตู้ทั้งหมด 5 ตู้ ได้แก่ สุขุมวิท 71 หน้าร้านประจักษ์เบเกอรี่ , เพชรเกษม 54 หน้ายุวพุทธสมาคม แห่งประเทศไทย , ซอยวิภาวดี 60 (วงเวียนกลางซอย) , ตลาดบางคอแหลม และ หน้าโครงการ Sky Ville บ้านแลง จ.ระยอง

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ถึงกับต้องหยิบปรากฏการณ์ “ตู้ปันสุข” มาแถลงข่าว 2 วันซ้อน และตัวเลขล่าสุด ณ ตอนที่ผมกำลังนั่นปั่นต้นฉบับ มีตู้ปันสุขในจังหวัดต่าง ๆ 43 จังหวัด แล้ว

ผมบอกตามตรง ว่า น่าชื่นใจสำหรับน้ำจิตน้ำใจของคนไทยที่ตั้ง และหลั่งไหลมาเติมตู้ปันสุข เพราะไม่จำเป็นต้องมีสิ่งของจำนวนมาก ๆ ทำเป็นถุงยังชีพ แค่ไข่แผงเดียว ข้าวสารไม่กี่ถุง น้ำไม่กี่ขวด มาม่าไม่กี่ห่อ ปลากระป๋อง 2-3 กระป๋อง ก็นำมาเติมใน “ตู้ปันสุข” ให้ไม่มีวันพร่อง

เป็นความจริงแท้แน่นอน ว่า “ตู้ปันสุข” มีผู้ให้ ย่อมมีผู้รับ และเป็นความจริงแท้แน่นอนว่า “ผู้รับ” นั้นมีความตระหนักถึงส่วนรวมแตกต่างกัน เราจึงเห็นภาพการแย่งชิง การโกยของใน “ตู้ปันสุข” ไปโดยไม่เหลือเผื่อแผ่

นั่นแหล่ะครับ มันเป็นความจริงของ “คนไทย” เราได้แต่โมทนาสาธุสำหรับ “ผู้ให้” ส่วนผู้รับไปก็ได้แต่ “สาปส่ง”

ผมคิดเองว่า “ตู้ปันสุข” นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำแล้ว ด้วยการขอให้เศรษฐี 20 อันดับของประเทศ ได้ช่วยแบ่งปันให้ประเทศไทย และคนไทย และผมก็เห็นนักธุรกิจแต่ละคนตอบจดหมายนายกฯ ว่าจะทำสิ่งโน้นสิ่งนี้ นั่นก็เป็น “เบื้องแรก” ของการปันสุข

ผมคิดเองว่า “ตู้ปันสุข” คนไทยที่มีกำลังวังชามาก ได้ร่วมกันทำถุงยังชีพแจกจ่ายตามกำลังทรัพย์

โควิด-19 สอนให้เรารู้ว่า ชีวิตนี้ไม่ใช่ของเรา ทรัพย์สินเงินทองนี้ไม่ใช่ของเรา เพราะเราอาจจะติดเชื้อและตายเมื่อไหร่ก็ได้

ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้ “การแบ่งปัน” คือ “พลังความดี” ที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของคนไทยหมู่มาก