อายุยืนเพราะสุขภาพช่องปาก

อายุยืนเพราะสุขภาพช่องปาก

สุขภาพของช่องปาก โยงใยอย่างสำคัญกับสุขภาพของร่างกายโดยทั่วไป การสูญเสียฟันกับอายุขัยเฉลี่ยมีความสัมพันธ์กันอย่างสูง

          ในหลายการศึกษามีการพบว่าผู้ที่มีจำนวนฟัน 20 ซี่หรือมากกว่าเมื่อมีอายุ 70 ปี   มีโอกาสที่จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่มีจำนวนฟันน้อยกว่า 20 ซี่     และงานศึกษาของ The  Oral Health  Foundation ระบุว่าผู้ที่มีฟันครบชุด (32 ซี่ คือ ฟันหน้า 8   เขี้ยว 4    ฟันระหว่างฟันหน้ากับกราม 8 และกราม 12 ซี่เมื่อมีอายุ 74 ปี   มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีอายุยืนถึง 100 ปี

           การมีสุขภาพช่องปากที่ไม่ดีอาจนำไปสู่โรคสำคัญ  หลายโรคดังต่อไปนี้    

(1)  โรคหัวใจ   เมื่อดูแลช่องปากไม่ดี   แบคทีเรียจากฟันผุหรือเหงือกอักเสบ อาจหลุดเข้าไปในกระแสเลือด   ทำให้เกิดการสะสมของแผ่นเคลือบ (plaque-แพลคที่จับตัวอยู่บนผนังหลอดเลือดหัวใจ  เมื่อสะสมหนาเข้า หลอดเลือดหัวใจก็แข็งตัว   เลือดไหลเวียนไม่สะดวกจนอาจอุดตันเกิดหัวใจวาย นอกจากนี้ทำให้ความดันโลหิตสูงเพราะหลอดเลือดไม่อ่อนนิ่มจนอาจนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดสมองได้   ที่น่ากลัวอีกอย่างก็คือแบคทีเรียอาจเข้าไปสร้างการติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจได้

(2)  การติดเชื้อทางเดินหายใจ     แบคทีเรียจากการอักเสบในช่องปากอาจหลุดเข้าไปในกระแสเลือดและเข้าไปที่ปอดจนทำให้เกิดหลอดลมอักเสบ หรือนิวมอเนียได้

(3)  โรคเบาหวาน   คนเป็นเบาหวานมักติดเชื้อง่ายอยู่แล้ว   เมื่อมีการอักเสบก็ทำให้การควบคุมโรคเบาหวานยากขึ้นเพราะการอักเสบทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น     ในทางกลับกันสำหรับคนปกติเมื่อมีการอักเสบและระดับน้ำตาลสูงขึ้นก็ทำให้มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น 

(4)  โรคมะเร็งในช่องปาก     การสูบบุหรี่   เคี้ยวยาสูบ กินหมาก และดื่มแอลกอฮอร์เกินขนาดทำให้โอกาสในการเป็นมะเร็งในช่องปากและลำคอสูงขึ้น   มีงานวิจัยพบว่ามะเร็งอื่น   เช่น             ไต   ตับอ่อน  และเลือด อาจโยงใยกับการอักเสบในช่องปากเช่นกัน 

(5)  โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์  ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบมีทางโน้มมากกว่าคนอื่นถึงสี่เท่าที่จะเป็นโรคนี้ซึ่งเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อ        หุ้มข้อ  กล่าวคือแบคทีเรียจากการอักเสบซ้ำเติมให้เกิดการอักเสบรุนแรงขึ้นทั่วร่างกายซึ่งทำให้โอกาสในการพัฒนาขึ้นเป็นโรคดังกล่าวสูงขึ้น

(6) ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คือกลุ่มอาการของการสูญเสียความสามารถในการคิด    การจำ   ตลอดจนความสามารถในการดำรงชีวิต  โรค Alzheimer’s เป็นสาเหตุใหญ่ของกลุ่มอาการนี้    แบคทีเรียจากการอักเสบในช่องปากสามารถฆ่าเซลล์สมอง  เข้าไปในกระแสเลือด  และกระจายไปทำลายศูนย์ประสาทในสมองได้

             โรคเหล่านี้มีที่มาจากการละเลยดูแลสุขภาพช่องปาก  สิ่งที่ควรทำได้แก่   (1)  แปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง  ละประมาณ 2 นาที  (2)  ใช้ยาสีฟันที่มี fluoride     (3)  หยุดการสูบบุหรี่ เคี้ยวยาสูบ  ดื่มแอลกอฮอร์เกินขนาด (4)  ควบคุมปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มที่บริโภค    (5)  บริโภคอาหารที่มีผักผลไม้และมีความสมดุลในสารอาหาร(6)  ใช้ไหมขัดฟัน (dental floss) อย่างน้อยวันละหนึ่งครั้ง

           หลังจากกินและดื่มสิ่งที่มีน้ำตาล แบคทีเรียในช่องปากจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นกรดและแพลค (plaque) หรือสารเหนียวติดฟันจะก่อตัวขึ้น  กรดในแพลคจะกัดกร่อนฟันเป็นรู  แบคทีเรียเข้าไปเติบโต  หากเกิดการอักเสบมากและลามไปถึงเหงือกจนเป็นหนอง  ฟันก็อาจหลุดได้  ดังนั้นการแปรงฟันเพื่อกำจัดแพลคจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

           ในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนฟันกับการมีอายุยืนยาวนั้น   มีการพบว่าผู้ที่สูญเสียฟันไป 5 ซี่ หรือกว่านั้นก่อนถึงอายุ 65 ปี มีโอกาสสูงกว่าคนอื่นที่จะเป็นโรคหัวใจ  โรคเบาหวานและโรคกระดูกผุ   ซึ่งทั้งหมดมีผลต่ออายุขัยเฉลี่ย

            การสูญเสียฟันจำนวนมากในผู้สูงอายุทำให้คุณภาพชีวิตลดลง    กินอาหารไม่อร่อย   เคี้ยวอาหารไม่ถนัดซึ่งทำให้สารอาหารเข้าสู่ร่างกายลดลง  นอกจากนี้ยังมีผลลบในด้านจิตวิทยาอีกด้วย  วงการแพทย์เชื่อว่าการเคี้ยวอาหารคือการกระตุ้นเซลล์สมองอย่างหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างจากช่องปาก  การมีฟันสำหรับเคี้ยวอาหารจึงมีความสำคัญมากกว่าเพียงทำให้อาหารย่อยง่ายเท่านั้น                  

             ในปี 2000   Japan Dental Association ได้จัดตั้งโครงการ 8020 Promotion Foundation   รณรงค์ให้ผู้สูงอายุมีเป้าหมายของการรักษาจำนวนฟันไว้อย่างน้อย  20 ซี่ เมื่อมีอายุ 80 ปี โครงการนี้ปลุกให้ผู้สูงอายุและคนทุกวัยตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพช่องปาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาจำนวนฟันซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเอง  การยอมรับความสัมพันธ์ของสุขภาพช่องปากกับสุขภาพโดยทั่วไปทำให้เกิดการทบทวนความคิดในการให้บริการสุขภาพของภาครัฐที่รวมบริการช่องปากด้วย

              หลังจากอ่านบทความนี้แล้วอย่าลืมส่องกระจกนับจำนวนฟันนะครับ   ไม่มีอะไรที่ทำให้บุคคลหนึ่งดูแก่และหมดสภาพได้เท่ากับการมีฟันหลอและเหลือฟันน้อยซี่ครับ.