ชะลอ "รวย" และเร่ง “จน” | วรากรณ์ สามโกเศศ
ทุกคนมีรายได้ไม่เท่ากัน มีสิ่งแวดล้อมทางการเงินของตนเองและครอบครัวที่แตกต่างกัน มีความรู้ความสามารถในการหารายได้ที่แตกต่างกันอีกด้วย แต่ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ การใช้จ่ายเงินที่หามาได้เพื่อการดำรงชีพ
แต่กระนั้นก็มีรสนิยมในการใช้เงินที่ไม่เหมือนกัน ผู้ใดที่รู้จักใช้เงินจนมีเงินออม เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นเงินลงทุนจนมีรายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการทำงานหาเงินธรรมดาแล้วก็จะมีอนาคตของความมั่นคงทางการเงิน
และสำหรับผู้ใช้เงินไม่เป็นก็จะจมปลักอยู่กับหนี้จนขาดความมั่นคงการเงิน ระหว่างทางของการดำรงชีพมีหลายสิ่งที่ช่วยชะลอ “ความรวย” กล่าวคือทำให้การสะสมเงินออมนั้นช้าลง และช่วยเร่ง “ความจน” ให้จนหนักยิ่งขึ้น
การมีเงินออมหรือเงินเหลือจากการบริโภคที่แปรเปลี่ยนเป็นเงินลงทุนเป็นหัวใจของการมีความมีอิสระทางการเงิน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “รวย” กล่าวคือมีรายได้ในรูปของดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ส่วนแบ่งกำไร ฯลฯ โดยที่ไม่ต้องออกแรงทำงานหรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่าบุคคลหนึ่ง “รวย” เมื่อมีเงินจ่ายค่ายังชีพโดยไม่ต้องทำงาน
คาถา “จงอยู่กินต่ำกว่าฐานะ” นั้นน่ารับฟัง คาถานี้บอกว่าถึงมีรายได้ขนาดนี้ก็อยู่กินขนาดนี้ได้ แต่กลับอยู่กินต่ำกว่าฐานะเพื่อสะสมทุนหรือให้มีเงินออมไปดาวน์บ้าน ซื้อที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นที่จะสร้างรายได้และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากในอนาคต หรือเรียนรู้ทักษะที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น
ประเด็นพึงพิจารณาก็คือมีอย่างน้อย 9 สิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการสะสมทุนเพื่อ “ความรวย” และทำให้คนจน ๆ ยิ่งขึ้น ดังนี้
(1) บัตรเครดิต ธุรกิจและเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้การกู้ยืมเงินเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นเลขสองตัว การใช้บัตรเครดิตก็คือการกู้ยืมเงินนั่นเอง
มันคือการเอารายได้ในอนาคตมาใช้ไปก่อนด้วยการจ่าย “ค่าธรรมเนียม” ราคาสูง เพียงมีใช้ใบเดียวและผ่อนส่งหนี้ได้ก็ล่อใจให้ใช้จ่ายเงินสะดวกอยู่แล้วแต่เมื่อสามารถมีได้หลายใบก็ยิ่งล่อใจให้มีรายจ่ายมากขึ้นผ่านการเป็นหนี้ด้วยการเอาเงินกู้จากอีกบัตรมาจ่ายสลับผ่อนหนี้ (บัตรเครดิตรูปแพะกับแกะ) จนหนี้กลายเป็นดินพอกหางหมูเพราะดอกเบี้ยท่วมหัว
บัตรเครดิตเป็นสิ่งมีประโยชน์ที่ช่วยยามเจ็บป่วยหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการใช้เงิน แต่ถ้าแยกความจำเป็นต้องมีหรือใช้ (needs) กับความปรารถนาต้องการมีหรือใช้ (wants) จากกันไม่ได้แล้วเมื่อเห็นอะไรก็จะรูดบัตรท่าเดียว อย่างนี้ต้องระวังการมีบัตรเครดิตให้มากเพราะจะทำให้ต้องเช่าบ้านเขาอยู่ตลอดไป ทั้ง ๆ ที่หากมีเงินดาวน์สักก้อนก็สามารถแปรเปลี่ยนค่าเช่าในแต่ละเดือนให้เป็นค่าผ่อนบ้าน ซึ่งในอนาคตก็จะได้มาเป็นสมบัติของตนเองโดยสมบูรณ์
(2) การอยู่กิน การอยู่กินอย่างหรูหราตามเพื่อน ไม่ว่าการขึ้นแท็กซี่บ่อย ๆ แทนขึ้นรถเมล์ มีรถหรูราคาแพง การท่องเที่ยวต่างประเทศ ฯลฯ ซึ่งอาจใช้บริการบัตรเครดิตด้วยจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกมากในแต่ละเดือน หากเปลี่ยนพฤติกรรม เงินออมในแต่ละเดือนก็จะเพิ่มขึ้นเพียงเเค่ลดการใช้จ่ายในบางเรื่องลง เช่นกาแฟราคาแพงที่ดื่มเป็นประจำ อาหารฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ฝรั่ง ของใช้แบรนด์เนม อุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย ฯลฯ
(3) เฮฮาปาร์ตี้ การมีความสนุกสนานจากการสังสรรค์เฮฮากับเพื่อน ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย แต่การถวิลหาความสุขจากกิจกรรมดังกล่าวอยู่ร่ำไปคือหนทางของการเสียเงินโดยใช่เหตุ ความพอดีจากการรักษามิตรภาพ ความสนุกสนานและขนาดกระเป๋าของตนเองเป็นเรื่องที่ตนเองเท่านั้นจึงจะรู้ได้
(4) ความหล่อและความงาม เดือนหนึ่ง ๆ แต่ละคนเสียเงินไปกับการทำเล็บ ทำผม อบผม ดูแลความหล่อและความงามด้วยสารพัดครีมและเครื่องสำอางใช่น้อย โดยเฉพาะจากกระแสที่ว่าความงามเป็น needs และแรงโฆษณาให้เป็นคนมีระดับหากบริโภคสินค้าราคาแพงเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ
(5) ยาและสมุนไพร ในปัจจุบันสมุนไพรและยาบำรุงเพื่อสุขภาพและความงามกินเงินคนไทยเป็นจำนวนมหาศาล และทำให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของรัฐในการรักษาความเจ็บป่วยจากโรคไตเพราะบริโภคสิ่งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยทางวิทยาศาสตร์หรือมีสารปนเปื้อนอย่างจงใจ
(6) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ถึงแม้จะมีความพอดีในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็ทำให้เสียเงินเพิ่มอีกไม่น้อย โดยทั่วไปนับว่าเป็นการเสียเงินเพื่อทำลายสุขภาพ และหากเสพยาด้วยก็ไม่ต้องพูดกันว่าจะยิ่งทำให้จนยิ่งขึ้นเพียงใด เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ซึ่งงานวิจัยพบว่าเป็นสะพานสำคัญในวัยรุ่นไปสู่การเสพยาเมื่อมีอายุมากขึ้น
(7) การพนัน การซื้อหวยรัฐบาลหรือใต้ดินกันเป็นพัน ๆ บาทต่อเดือน โดยเฉพาะชุดสวยที่มีราคาใบละ 130-150 บาทเป็นเรื่องที่ได้ยินกันเป็นปกติ ถึงแม้โอกาสถูกรางวัลที่หนึ่งยากกว่าโอกาสที่จะถูกปลาฉลามกัด บวกจระเข้กัดบวกฟ้าผ่าอีกสองครั้งในชีวิตก็ตาม แต่ผู้คนก็ไม่ย่อท้อเพราะมีความหวังจากการเห็นข่าวคนที่ถูกรางวัลในสื่อ แต่คนที่ถูก “กิน” อีก 999,999 คนนั้นไม่เคยเป็นข่าว
ที่น่ากังวลก็คือการพนันออนไลน์ซึ่งส่วนหนึ่งมาในรูปแบบของเกมส์อย่างเนียน ๆ การต้องเสียเงินซื้ออุปกรณ์อาวุธเสมือนเพื่อมาต่อสู้ให้ชนะและได้เงินมาจริง ๆ นั้นเป็นการพนันโดยไม่ต้องสงสัย ปัจจุบันเด็กและผู้ใหญ่ติดกันงอมแงมจน เป็นหนี้เป็นสินกันเพราะต้องการ “เอาคืน” และก็ไม่สำเร็จ การพนันฟุตบอลนั้นไม่ต้องพูดถึง พนันกันเป็นหมื่นเป็นแสน หรือเป็นล้านก็มี ทั้งหมดนี้ทำให้เดือนหนึ่ง ๆ เสียเงินกันไปมากมาย และในสังคมส่วนใหญ่นั้นมีจำนวนคนมีเงินน้อยเล่นการพนันมากกว่าคนรวยซึ่งทำให้จนยิ่งขึ้น
(8) แสวงหาพลังศักดิ์สิทธิ์ คนไทยเสียเงินมากมายจากการพยายามหาเลขเด็ด หาความหลุดพ้นจากความยากจน หาความโชคดี ฯลฯ จากสรรพสิ่งโดยเฉพาะจากผู้วิเศษแต่เมื่อเเปลงร่างเป็นมิจฉาชีพก็ทำให้เสียเงินมากขึ้น
(9) ซื้อสิ่งไร้สาระ ฝรั่งเรียกการซื้อของตามใจชอบอย่างมีความสุขและไม่เป็นสาระว่า monkeys เราทุกคนเสียเงินซื้อ ‘ลิง’ กันไม่น้อยเพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ชอบซื้อผ้าพันคอ มีดพับ นาฬิกา เครื่องสำอาง กระเป๋าถือ ฯลฯ หากตัด ‘ลิง’ ให้เหลือน้อยตัวลงก็จะช่วยได้มาก
กล่าวโดยสรุปก็คือหากไตร่ตรองแล้วก็สามารถตัดรายจ่ายลงไปได้หลายเรื่อง เงินที่ประหยัดได้นี้จะช่วยเร่งการสะสมเงินออม และหยุดความจนยิ่งขึ้นได้ 9 ข้อนี้โดยแท้จริงแล้วมีผลต่อคนมีรายได้น้อยมากกว่าคนรวยที่มีฐานะพอจะเล่นกับมันได้
การมุ่งมั่นอย่างมีเป้าหมายพร้อมกับมีวินัยบังคับใจตนเองในเรื่องการใช้จ่าย และเดินไปบนเส้นทางชีวิตอย่างระมัดระวังด้วยคุณธรรม จะทำให้เกิดทั้งความมั่นคงทางการเงิน และความมั่นคงในชีวิต.