Clean and Green Energy / Technology | วิฑูรย์ สิมะโชคดี
ทุกวันนี้ คนไทยเปิดใจยอมรับรถยนต์พลังงานทางเลือก (xEV) หรือ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กันมากขึ้น เนื่องจากเหตุผลหลัก 3 ประการ คือ ประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ (เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ด้วยความนิยมรถยนต์พลังงานทางเลือก (xEV) หรือ รถยนต์ไฟฟ้า (EV)นี้เองที่เพิ่มศักยภาพ และปลุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเราให้คึกคักต้อนรับปีใหม่นี้ ผลสำรวจล่าสุด โดย “เกรท วอลล์ มอเตอร์” และ “นิด้าโพล” ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยมีความสนใจในรถยนต์พลังงานทางเลือก (xEV)
ด้วยเหตุผลหลัก อันได้แก่ (1) ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (83.85%) (2) มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย (52.41%) และ (3) เป็นระบบไฮบริดที่เป็นรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ (44.82%)
ผลการสำรวจยังพบอีกว่า กลุ่มเป้าหมายให้การตอบรับเชิงบวกต่อรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ด้วยเหตุผลด้านความคุ้มค่า ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น
ประเด็นความตื่นตัวของตลาด EV ดังกล่าวนี้ คุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงทำให้มีทั้งคนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ นำไปสู่การปรับตัวให้เกิดโอกาสทางธุรกิจ เมื่อเกิดเทรนด์ที่ผู้บริโภคใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การทำงานทางไกล การใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้น”
จากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของคุณสมโภชน์ อาหุนัย ทุกอย่างจึงค่อยๆก่อร่างสร้างตัวขึ้น จนเกิดการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมด้านพลังงานทางเลือกในระดับโลกขึ้นในบ้านเรา
“บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด” จึงเกิดจากความมุ่งมั่นของ “กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์” (EA) ในการเป็นผู้นำด้านพลังงานทางเลือกในประเทศไทยและในระดับสากล โดยต่อยอดจากการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และจากพลังงานลม จนขยายตัวมาสู่การผลิต “ลิเที่ยมไอออนแบตเตอรี่” เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าในยานยนต์ไฟฟ้า และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิตและจ่ายไฟฟ้า
การกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเช่นนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งหากนำไปใช้กักเก็บไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยให้การผลิต และจ่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสามารถทำได้อย่างมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น
ด้วยความมุ่งมั่นดังกล่าว กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ (EA) จึงเดินหน้าเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โดยในปี 2560 ได้เข้าไปลงทุนใน บริษัท อมิตา เทคโนโลยี อิงค์ ไต้หวัน ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่าย “แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน” ในไต้หวันเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว โดยได้ขยายฐานการผลิตจากโรงงานเดิมในไต้หวันมายังประเทศไทย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นในระดับ World Class ภายใต้ชื่อ “บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด”
ในปีเดียวกันนั้น บริษัทฯ ได้เริ่มออกแบบโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในประเทศไทย โดยได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยี จากอมิตาฯ ไต้หวัน ผ่านความร่วมมือกันระหว่างวิศวกรชาวไต้หวัน และวิศวกรชาวไทย และได้เริ่มเตรียมการก่อสร้างโรงงาน เมื่อปี 2561 ในเขตโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรที่ทันสมัยและมีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
การเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการ จึงมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2565 ภายใต้คำขวัญว่า “พลังงานเพื่ออนาคต” ซึ่งเป็นการฉลอง “The First Gigafactory in ASEAN”
โรงงานแห่งนี้ เป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนชนิดถุง (Pouch Cell) แบบครบวงจร ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติที่ทันสมัย เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสามารถรองรับการลงทุนของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องต่างๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศของ “อุตสาหกรรม 4.0” และ “New S Curve” ได้อย่างสมบูรณ์แบบต่อไป
ทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดขึ้นในบ้านเราขณะนี้ ก็คือ อุตสาหกรรมที่พัฒนาจากความก้าวหน้าทาง “เทคโนโลยี” ล่าสุด ที่เป็น “Clean and Green Energy / Technology” ซึ่งนับวันจะสำคัญมากขึ้นทุกทีบนโลกใบนี้ ครับผม !
คอลัมน์ : ผู้นำยุคสุดท้าย
ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม