ไร้สุขทุกข์ใจเพราะ "มด” | วรากรณ์ สามโกเศศ
รู้จักและเรียนรู้ "มด” 9 พันธุ์ ที่ชอบเข้ามาเพ่นพ่านในสมองของเรา ถ้าไม่สู้กับมันให้ชนะ เราจะหาความสุขจากชีวิตได้ยาก
“ชีวิตผมหมดแล้วเพราะจะไม่มีวันคุ้นเคยกับนิวนอร์มัลแน่ ๆ” “ความไม่แน่นอนในโลกมันมีมากจนผมสู้ไม่ไหว” “ยังไง ๆ ชีวิตผมก็เป็นแค่นี้แหละผมรู้มานานแล้ว” “เจ้านายเขาเกลียดผมมาก” “ผมไม่มีวันได้งานใหม่ ๆ ดี ๆ อีกแน่นอน” “ไอ้ผมมันคนขี้แพ้ ทำอะไรก็เจ๊งหมด” ฯลฯ
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดที่เข้ามาในสมองจนทำให้ทุกข์ใจ ไร้สุข วิตกกังวล และอาจถึงซึมเศร้าได้ ลักษณะการคิดเช่นนี้เกิดได้กับคนจำนวนมากเพราะมันมี “มด” อยู่ 9 พันธุ์ที่ชอบเข้ามาเพ่นพ่านในสมองของเรา ถ้าไม่สู้กับมันให้ชนะเราจะหาความสุขจากชีวิตได้ยาก
“มด หรือ ANTs ซึ่งย่อมาจาก Automatic Negative Thoughts (ความคิดอัตโนมัติแง่ลบ) เป็น “มด” ที่ Dr.Daniel G. Amen กล่าวถึงในหนังสือดังคือ “Change Your Brain Change Your Life” ตีพิมพ์ในปี 1999
ความคิดเชิงลบที่เกิดขึ้นในสมองของเราอย่างอัตโนมัตินั้นเปรียบเสมือน “มด” หรือ ความคิดที่หลอกลวงตัวเราจนทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เป็นจริง “มด” นั้นมี 9 พันธุ์ดังต่อไปนี้
(1) “ทั้งหมด หรือเป็นศูนย์” มดพันธุ์แรกคือการคิดว่าทุกสิ่งเป็นได้สองอย่างเท่านั้นคือดีกับเลว / ขาวกับดำ / ใช่หรือไม่ใช่ ฯลฯ ดังนั้นถ้าเราทำอะไรผิดพลาดไปบ้างก็คือความล้มเหลวทั้งหมด ความคิดเช่นนี้จะทำให้เรารู้สึกท้อถอย และอาจล้มเลิกความพยายามไปเลยเพราะโลกมีแต่ “สำเร็จ” กับ “ล้มเหลว” เท่านั้น ไม่มีอะไรอยู่ตรงกลาง
(2) “คิดเหมารวม” มดพันธุ์นี้ทำให้ความคิดหมกมุ่นอยู่กับคำว่า “เสมอ” “ไม่เคยเลย” “ทุกครั้ง” “ทุกคน” จนทำให้คิดว่า “ฉันทำผิดพลาดเสมอ” “ไม่เคยมีใครฟังฉันแม้แต่สักครั้ง” “เขาไม่เคยพูดดีกับฉันเลย” ฯลฯ ทุกอย่างจะคิดแบบเหมารวมว่าทุกคน ทุกครั้ง ทุกเวลาจะไม่ดีกับเราเสมอ ความคิดแบบนี้สุดโต่ง และทำให้เราเกิดความเข้าใจผิดจากความคิดที่ผิด ๆ ของเรา ในโลกจริงไม่มีอะไรที่อาจเหมารวมได้ มันมีทั้งการทำผิดบ้างถูกบ้าง “มด” ตัวนี้จะทำให้รู้สึกท้อใจและล้มเหลวในชีวิต
(3) “มองเห็นแต่สิ่งที่เป็นลบ” มดพันธุ์นี้ทำให้มองเห็นอะไรเป็นลบไปหมด มองไม่เห็นสิ่งดี ๆ ที่อาจแอบซ่อนอยู่ในสถานการณ์เดียวกันได้ เช่น หกล้มหัวแตกทำให้คิดว่าถูกแกล้งหรือโชคร้าย โดยมองไม่เห็นว่ามันสอนให้เรารอบคอบมากยิ่งขึ้นในการเคลื่อนไหวร่างกายในอนาคต คนที่มองเห็นแต่สิ่งที่เป็นลบนั้นจิตใจจะหดหู่ ฮอร์โมน Cortisol จะหลั่งออกมาซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
(4) “คิดตามความรู้สึก” มดพันธุ์นี้ทำให้เกิดความคิดว่าสิ่งที่รู้สึกอยู่นั้นเป็นจริง แต่ความจริงก็คือความรู้สึกก็คือความรู้สึก มิใช่ความจริงตามหลักฐานเช่น คิดว่าคนไม่ชอบเรา คิดว่าเราสู้คนอื่นไม่ได้ คิดว่าเพื่อนหักหลัง คิดว่าเราเป็นส่วนเกินของที่ทำงาน ฯลฯ ทั้งหมดล้วนมาจากความรู้สึกที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ทั้งสิ้น
(5) “อ่านใจออก” การทึกทักตามความรู้สึกของตนเองว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไรกับเรา เช่น จิตนาการว่าหมอที่ตรวจโรคจะพูดอะไรที่เป็นลบเกี่ยวกับสุขภาพของเรา เจ้านายกำลังจะไล่เราออกจากงาน ฯลฯ
“มด” พันธุ์ที่ชอบมาเพ่นพ่านเช่นนี้ทำให้เกิดความทุกข์ใจโดยไม่จำเป็นเพราะคิดไปไกลกว่าความเป็นจริง
(6) “หมอดูแม่น ๆ” มดตัวนี้ทำให้คิดว่า “คนดูคงโห่เราให้ลงจากเวทีแน่ ๆ” “เหตุการณ์เลวร้ายที่คาดไว้จะเกิดเป็นจริงแน่ ๆ” “ต้องป่วยเป็นโรคร้ายแน่ ๆ จากผลการตรวจเลือด” “จะพยายามแก้ไขความผิดพลาดอย่างไรก็ไม่เป็นผลแน่นอน”
การคิดแบบนี้จะทำให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นในใจ และบ่อยครั้งมันก็อาจเกิดขึ้นจริงอันเป็นผลจากตัวเรา เช่น เมื่อคิดเช่นนี้ก็ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองและอาจถูกโห่ไล่ลงจากเวทีจริง ๆ ก็เป็นได้
(7) “หมกมุ่นอยู่กับความผิดพลาด” มดพันธุ์นี้ทำให้เราติดกับดักของสิ่งที่ได้เกิดขึ้นในอดีต คิดขึ้นมาคราใดก็เสียใจและเสียดาย เช่น “ถ้าเราไม่ตัดสินใจแบบนั้นป่านนี้เราก็สบายแล้ว” “ไม่น่าแต่งงานด้วยเลย ถ้าเลือกพี่เบื๊อกก็คงไม่ต้องปวดหัวแบบนี้” “ไม่ควรพูดจาแบบนี้กับเพื่อนรักเราเลย” สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในอดีตซึ่งเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ เสียใจและเสียดายอาจนึกถึงได้ แต่ไม่ควรถูก “ขัง” ไว้กับความรู้สึกเช่นนี้อยู่ตลอดจนขาดความสุข
(8) “ติดป้ายตราหน้า” หากเรา “ติดป้าย” ตัวเราเอง หรือคนอื่นในชื่อเชิงลบ แสดงว่า “มด” พันธุ์นี้กำลังอาละวาดแล้ว เช่น “เราเป็นคนขี้แพ้” “เราเป็นคนขี้เกียจแถมหัวทึบด้วย” “เราเป็นคนอับโชค” การตีตราหรือติดป้ายให้ตัวเราเองเช่นนี้ ทำให้เราขาดแรงจูงใจที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเรา พูดง่าย ๆ ก็คือยอมแพ้ก่อนที่จะลงมือสู้ด้วยซ้ำ ส่วนการตีตราคนอื่น เช่น “ไอ้พวกนี้มันงั่ง” “พวกนี้มันเต่าล้านปี” รังแต่จะทำให้เป็นผลเสียแก่ร่างกายของเรา
(9) “โทษคนอื่น” มดพันธุ์นี้มีพิษร้ายแรงที่สุด การโทษคนอื่นเสมอเมื่อประสบสิ่งไม่พึงปรารถนาโดยไม่เคยพิจารณาตนเองเลยว่าที่คิดนั้นถูกต้องหรือไม่ การไม่เคยคิดรับผิดชอบต่อสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นกับตนเองนั้นหากนานวันเข้าจะเป็นนิสัยถาวรที่ทำลายอนาคตของตนเอง
ลองจินตนาการว่าหากตลอดเวลาของการใช้ความคิดมีมด 9 พันธุ์เพ่นพ่านอยู่เสมอแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ในเบื้องต้นคือความทุกข์ใจ ไร้ความสุข หากปล่อยไว้นาน ๆ อาจพัฒนาขึ้นเป็นการมีอาการวิตกกังวลเกินเหตุ เกิดความบาดเจ็บทางจิตใจ เกิดความเศร้าโศรก หรือ เกิดภาวะซึมเศร้าได้ ทั้งหมดล้วนเกิดจากความคิดในสมองของเราทั้งสิ้น
จะปราบ “มด” 9 พันธุ์นี้ได้มี 4 ขั้นตอน กล่าวคือ
(1) รู้ทันทีว่าเป็น “มด” พันธุ์ใดเมื่อมันเกิดขึ้นในสมอง จงพูดกับตัวเองว่าต้องปราบไอ้มดตัวนี้ให้ได้
(2) ท้าทายตัวเองว่าสิ่งที่คิดนั้นมีความจริงอยู่หรือไม่ และมากน้อยเพียงใดโดยพิจารณาจากหลักฐาน
(3) ขยายความคิดให้กว้างขวางขึ้นโดยพิจารณาว่าเรากำลังให้ความสำคัญกับความคิดนั้นมากเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับความคิดในเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นลบหรือไม่
(4) ทดแทนความคิดที่ทำให้ทุกข์ใจด้วยความคิดเชิงบวก
จิตใจเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การบังคับความคิดและจิตใจตนเองให้ไปในทิศทางที่ต้องการนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างไรก็ดีในขอบเขตหนึ่ง หากเราไม่ต้องการความทุกข์ใจอันเกิดจากจินตนาการของตัวเราเองแล้ว การรู้จักและเข้าใจลักษณะของ “มด” 9 พันธุ์นี้ก็จะสามารถช่วยได้.