สู่โค้งสุดท้ายปลายปี เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ความต้องการน้ำมันลดลง
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงไปด้วย
ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ช่วงระหว่างวันที่ 1 ต.ค. - 6 ธ.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 84.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 85.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความกังวลต่อ ภาวะเศรษฐกิจโลก ที่อ่อนแอ ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวต่อเนื่อง
ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 75 - 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ด้วยแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัว ซึ่งคาดว่าภาคการผลิตในสหรัฐ ยุโรป และจีนยังคงฟื้นตัวช้า กดดันอุปสงค์น้ำมัน ประกอบกับอุปทานเพิ่มเติมจากนอกสมาชิก OPEC+ อาทิ สหรัฐ เวเนซุเอลา และบราซิล ที่จะทำให้อุปทานในตลาดคลายตัวมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แม้ว่าปัจจุบันจะไม่กระทบกับอุปทานในตะวันออกกลาง แต่หากสถานการณ์รุนแรงหรือบานปลาย อาจจะกระทบปริมาณการผลิตและส่งออกของประเทศข้างเคียง อาทิ ซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน
ขณะที่อุปทานภายในสมาชิก OPEC+ ที่มีการอาสาลดปริมาณการผลิตน้ำมันรวม 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน น่าจะเป็นแรงผลักดันให้ ราคาน้ำมัน ยังคงมีแนวโน้มสูงกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 1 ปี 2567
ล่าสุด ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) หรือ Fed ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (Federal Open Market Committee : FOMC) วันที่ 13 ธ.ค. 2566 มีการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.25 - 5.50%
อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายภายในไตรมาส 1/67 ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาสูงขึ้น