ซีพี-เมจิ ชวนคาเฟ่ทั่วประเทศร่วมโครงการ 'ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปี 2'
ซีพี-เมจิ เดินหน้าสร้างการรับรู้ด้านการจัดการขยะพลาสติก ชวนคาเฟ่ทั่วประเทศ ร่วมโครงการ "ซีพี - เมจิ รีไซขุ่น ปี 2 เปลี่ยนคุณขุ่น เป็นคุณต้นไม้"
15 ส.ค. 67 ชาลินี พูนลาภมงคล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และความยั่งยืน บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปี 2 เปลี่ยนคุณขุ่นเป็นคุณต้นไม้ ซึ่งเป็นโครงการภายใต้นโยบายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดยต่อยอดจากความสำเร็จของปีแรก สร้างการตระหนักรู้ และความเข้าใจให้กับสาธารณชนในเรื่องการจัดการขยะ ตั้งแต่คัดแยก ทิ้ง และส่งเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
ชาลินี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ซีพี-เมจิ เป็นผู้ผลิตนมและโยเกิร์ตพาสเจอร์ไรส์ภายใต้แบรนด์ เมจิ โดยตลอดระยะเวลากว่า 35 ปี ของการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ มีเจตนารมณ์องค์กรในการเพิ่มคุณค่าชีวิตให้กับผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการหลากหลาย ทั้งการส่งเสริมเกษตรกรโคนมนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ การยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานและชุมชน รวมถึงการจัดการพลังงาน น้ำ ของเสีย และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
"การจัดการ ขยะพลาสติก เป็นเรื่องที่อยู่ในโรดแมปการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมของ ซีพี-เมจิ ในฐานะผู้ผลิต เรามุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการจัดการขยะ ซึ่งในปีแรกของโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ทางเราขอความร่วมมือให้ลูกค้าที่ซื้อนมเมจิส่งแกลลอนที่ใช้แล้วไปยังจุดรับทิ้ง เพื่อรวบรวมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และนำไปผลิตเป็นถังขยะจำนวน 500 ใบ ส่วนในปีที่ 2 นี้ ซีพี-เมจิ ตั้งใจขยายโครงการเข้ามาสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ ที่ยังอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของเรา นั่นคือ กลุ่มผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านกาแฟ โดยขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านกาแฟช่วยกันส่งแกลอนนมใช้แล้ว เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกต้อง โดยตั้งเป้าเก็บรวบรวมให้ได้ 50,000 แกลลอน และทุกๆ 50 แกลลอน จะมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1 ต้น ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี" ชาลินี กล่าว
ทศพล ศุภเมธีกูลวัฒน์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท บลู ไพณ์ เวนเจอร์ส จำกัด ผู้ดูแลการจัดเก็บและนำส่งแกลลอนในโครงการซีพี-เมจิ รีไซขุ่น กล่าวว่า เจ้าของร้านกาแฟที่ได้เข้าร่วมโครงการ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบขึ้นมาเฉพาะสำหรับโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น พร้อมกับลงทะเบียน และเริ่มส่งข้อมูลจำนวนแกลลอนที่ใช้แล้วของผลิตภัณฑ์ซีพี-เมจิ เข้าสู่ระบบตลอดระยะเวลาของโครงการ ก่อนที่ผู้รับซื้อ หรือผู้ประกอบการในธุรกิจรีไซเคิลจะเข้าไปรับแกลลอนเหลือใช้เหล่านี้ เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการล้าง บด หลอม เป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลสำหรับใช้งานต่อไป
"ความสำเร็จของโครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปีที่ 1 สามารถคิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศได้ 2,160 กิโลกรัมคาร์บอน หรือเท่ากับระยะทางในการขับรถ 8,000 กิโลเมตร ส่วนในปีที่ 2 ของโครงการ การจัดเก็บแกลลอน 50,000 ขวด เพื่อนำไปรีไซเคิลนี้ จะคิดเป็นค่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้กว่า 7,200 กิโลกรัมคาร์บอน ขณะที่กิจกรรมการปลูกต้นไม้ จะสามารถนำมาคำนวณ เพื่อเก็บค่าการกักเก็บคาร์บอนได้ปีละ 21,772 กิโลกรัมคาร์บอน" ทศพล กล่าว
รชธภร ฐานะวร ผู้อำนวยการส่วนสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า โครงการ ซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ได้กลับมาสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง การปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น จะช่วยสร้าง พื้นที่สีเขียว ให้กับจังหวัดสระบุรี เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการเป็นพื้นที่ของเมืองต้นแบบสระบุรีแซนด์บ็อกซ์แห่งแรกของประเทศไทย ตามกรอบกลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
"โครงการซีพี-เมจิ รีไซขุ่น ปี 2 เปลี่ยนคุณขุ่น เป็นคุณต้นไม้ มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 เดือน โดย ซีพี-เมจิ กำหนดให้การส่งแกลลอนนมใช้แล้วทั้งหมด 50,000 แกลลอน แทนค่าเป็นการปลูกต้นไม้ 1,000 ต้น เจ้าของร้านกาแฟ และบาริสต้าที่เข้าร่วมโครงการกับเรา จะเดินทางไปร่วมกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ในจังหวัดสระบุรีในเดือนตุลาคม ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการปลูกป่าตามความตกลงร่วมกันระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กับซีพี-เมจิ ให้ได้ทั้งหมด 1,000 ไร่ ในระยะเวลา 5 ปี" ชาลินี กล่าว