AQUA ลุยขายหุ้นกู้มีหลักประกัน 450 ล้านบาท ชูดอกเบี้ย 7.25% เงินระดมทุนขยายธุรกิจ
AQUA เดินหน้าเสนอขาย "หุ้นกู้มีหลักประกัน" มูลค่า 450 ล้านบาท ชูจุดเด่น "ดอกเบี้ย" ระดับสูง 7.25% ต่อปี พร้อมเปิดให้จองซื้อ 8 - 9 และ 13 ส.ค.67 นี้ คาดนำเงินระดมทุนสร้างการเติบโตธุรกิจต่อเนื่อง หลังล่าสุดปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ ผนึก 2 พันธมิตร "เครือบุญรอด - ใบหยก" ลุย "ธุรกิจอาหาร"
หากเอ่ยถึง "หุ้นกู้" (Corporate Bond) คือ ตราสารหนี้ ที่ออกโดยบริษัทเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมทุนสำหรับใช้ในกิจการต่างๆ ของบริษัท เช่น การขยายกิจการ ซื้ออุปกรณ์ การก่อสร้างโรงงาน เป็นต้น ดังนั้นการเสนอขายหุ้นกู้ เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ "บริษัทเอกชน" ใช้เป็นช่องทางระดมทุน
แม้ในช่วงที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นกู้ได้รับผลกระทบจาก "หุ้นกู้ที่มีปัญหา" แต่ว่า "นักลงทุน" ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด สะท้อนผ่าน "หุ้นกู้" ประเภทที่มี "ทรัพย์สินค้ำประกัน" ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะว่า "ผลตอบแทน" (รีเทิร์น) ในการลงทุนยังคงมีเสน่ห์ ด้วยผลตอบแทนที่ "ชนะ" เงินฝากธนาคาร (แบงก์) ที่มีผลตอบแทนดอกเบี้ยในระดับต่ำ
และหนึ่งในเอกชนที่กำลังจะเสนอขาย "หุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีหลักประกัน" คือ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA โดยเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีหลักประกันครั้งที่ 1/2567 "วงเงินไม่เกิน 450 ล้านบาท" และเสนอผลตอบแทน "ดอกเบี้ย" ให้นักลงทุนระดับสูงที่ 7.25% ต่อปี ซึ่ง "จุดเด่น" จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยได้ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) มาเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือ เสนอขายแก่ "นักลงทุนสถาบัน" และ "นักลงทุนรายใหญ่ สามารถจองซื้อได้ในวันที่ 8 - 9 และ 13 ส.ค.2567 ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่ายถึง 7 ราย
ประกอบไปด้วย บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ และมีช่องทางการจองซื้อสะดวก และที่ "โดดเด่น" สุดๆ คือ ไม่เคยมีประวัติผิดนัดชำระ
ชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา AQUA ได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งด้าน "การบริหารจัดการ" ด้านการเงินการลงทุนผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ สะท้อนผ่านล่าสุด AQUA ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้ ส่งผลบวกทั้งการสร้าง "รายได้ และกำไร" เพิ่มขึ้น
สืบเนื่องจาก AQUA มีศักยภาพทางการเงิน "มั่นคง" สะท้อนภาพจากเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา บริษัทประกาศปิดยอดชำระเงินหุ้นกู้ที่ได้ออก และเสนอขายนักลงทุนเมื่อวันที่ 21 ก.ค.2565 คือ "หุ้นกู้รุ่น AQUA247A" กับอัตราดอกเบี้ย 5.75% ต่อปี ให้แก่นักลงทุนแบบเต็มจำนวนตามกำหนด 100% มูลค่า 628.80 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน AQUA ได้เข้าลงทุนในธุรกิจประเภทต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท "ธุรกิจ Cash Cow" ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่า อาทิ การให้เช่า Warehouse (คลังสินค้า) การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้บริการ
สำหรับ "กลุ่มธุรกิจ Healthcare" และ "กลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้า" ที่มีทั้งพลังงานลม และ Solar Rooftop และประเภทธุรกิจ New Growth ได้แก่ ธุรกิจ Logistics & Transportation
ล่าสุดกับการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในการลงทุน "ธุรกิจใหม่" (New Business) ใน "กลุ่มธุรกิจอาหาร" ที่ร่วมกับ 2 พันธมิตรดังอย่าง "เครือบุญรอด" และเซเลบคนเก่ง "ปิยะเลิศ ใบหยก" หรือ "เบียร์ใบหยก" ร่วมจัดตั้ง FAB หรือ บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจอาหาร โดยมี 8 แบรนด์อาหารดังในเครือ ได้แก่ Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว, Sekai no Yamachan, ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน รวมทั้งหมดมากกว่า 200 สาขา
ทั้งนี้ การเตรียมเสนอขาย หุ้นกู้ ข้างต้น เพื่อนำเงินทุนที่ได้ไปใช้ในการซื้อทรัพย์สิน ลงทุน หรือเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน จำนวน 380 - 420 ล้านบาท และเป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น จำนวน 10 - 50 ล้านบาท