“ดิษทัต” เคลื่อน SDG ฉบับโออาร์ ยุทธศาสตร์ธุรกิจก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ (OR) เป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการดําเนินธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
โดย ปตท. ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ ด้วยการโอนธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีก รวมทั้งหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องของหน่วยธุรกิจน้ำมัน ปตท. ให้กับ OR เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา และต่อมา OR ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2564
ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า OR ได้กำหนดกรอบกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ “Empowering All Toward Inclusive Growth : OR เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” สอดคล้องกับการบริหารจัดการด้านความยั่งยืนของกลุ่ม ปตท.
ทั้งนี้ OR ดำเนินธุรกิจด้วยพันธกิจ 4 ข้อ ได้แก่ 1. การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) สอดรับแนวโน้มการใช้พลังงานในอนาคต โดยขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจจากระบบนิเวศธุรกิจน้ำมัน (Oil Ecosystem) ไปสู่ระบบนิเวศธุรกิจพลังงานแบบผสมผสาน (Energy Solution Ecosystem)
2. การมุ่งมั่นสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles)
โดยขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจจากจากระบบนิเวศธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B Ecosystem) ไปสู่การสร้างระบบนิเวศธุรกิจที่ครบวงจร (One-Stop Solution Ecosystem) เพื่อให้สอดรับแนวโน้มพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค
3. การขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก (Global Market) โดยการต่อยอดธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดย OR มีการดําเนินธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ ในต่างประเทศ และ
4. การแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับ OR (OR Innovation) OR ใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งของธุรกิจในปัจจุบันและศักยภาพของ OR ในสร้างโอกาสทางธุรกิจ
ทั้งนี้ OR ได้กำหนดเป้าหมายองค์กรในปี 2573 หรือ OR 2030 Goals ที่ครอบคลุมการดำเนินงานใน 3 มิติ ประกอบด้วย มิติสิ่งแวดล้อม (Planet) มิติสังคม (People) และมิติเศรษฐกิจ (Performance) ซึ่งจะว่าด้วย Healthy Environment ลดผลกระทบเชิงลบต่อ สิ่งแวดล้อมให้ได้ 1 ใน 3 จากการดำเนินธุรกิจ Living Community ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างชุมชนน่าอยู่กว่า 15,000 ชุมชนEconomic Prosperity สร้างการเติบโตและกระจายความมั่งคั่ง สู่ผู้มีส่วนได้เสียกว่า 1,000,000 ราย
อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวคิด GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด (Low Carbon Business Areas) ผ่านการส่งเสริมธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 ตลอดจนมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี2050
“OR ได้ให้ความสำคัญกับการลงมือทำที่ชัดเจนทั้ง 3 ด้านทั้งการประสานธุรกิจพลังงานและไลฟสไตล์ให้เป็นหนึ่ง, การผนึกกำลังของธุรกิจทั้งภายในและภายนอกกลุ่ม ปตท. และการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อตอบโจทย์เป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สำหรับ SDG แบบฉบับOR ประกอบด้วย S:SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็กผ่านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนม, D:DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ ผ่านศักยภาพของORที่จะเป็นPlatformในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน, G:GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาดผ่านการส่งเสริม ธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำ อย่างยั่งยืน
“วันนี้ OR พร้อมที่จะติดปีกทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการใช้ Asset ของ OR ที่มีธุรกิจสถานีบริการพีทีที สเตชั่นที่พร้อมผนึกกลุ่ม ปตท. สร้างอีโคซิสเต็มยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) โดย OR ตั้งเป้าปี 2030 จะติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้าครบ 7,000 ตู้ชาร์จ จากปัจจุบันกว่า 300 ตู้ชาร์จ พร้อมกับเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อง่ายต่อการใช้งาน"
ความพยายามตั้งเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืน เป็นสิ่งที่หลายองค์กรทั้งภาครัฐและธุรกิจเร่งดำเนินการ แต่การลงมือทำอย่างมียุทธศาสตร์แม้ความสำเร็จยังมาไม่ถึงแต่ก็พอจะประเมินได้ว่ายุทธศาสตร์ในแบบฉบับโออาร์น่าจะพาความสำเร็จมาได้ไม่ยากนัก