‘Coldplay’ วงดนตรีในตำนาน ที่ชวนแฟนคลับ ‘รักษ์โลก’ ไปด้วยกัน

Key Points: 

• “Coldplay” วงดนตรีชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ที่ตั้งใจว่ากลับมาจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ ต้องไม่มีคาร์บอนฟุตพรินต์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• การใช้แผงโซลาเซลล์ วัสดุท้องถิ่น วัสดุรีไซเคิล และ พลังงานหมุนเวียน เป็นส่วนหนึ่งที่ Coldplay เลือกใช้ในการจัดคอนเสิร์ตเพื่อการรักษ์โลกที่ยั่งยืน
• ปัจจุบันศิลปินและคนในอุตสาหกรรมดนตรีทั่วโลกเริ่มหันมาจัดการแสดงโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเปิดโอกาสให้แฟนคลับมีส่วนร่วม

กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง สำหรับศิลปินวงป็อปร็อกในตำนานจากเกาะอังกฤษอย่าง “Coldplay” (โคลด์เพลย์) ที่กลับมาทัวร์คอนเสิร์ตในชื่อว่า “Music of the Spheres World Tour” ซึ่งตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 2 ของการทัวร์แล้ว หลังจากทางวงประกาศพักการทัวร์คอนเสิร์ตไปเมื่อปี 2019 เนื่องจากต้องการหาวิธีการจัดคอนเสิร์ตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เนื่องจากการทัวร์คอนเสิร์ตแต่ละครั้ง ถือเป็นกิจกรรมที่ปลดปล่อยคาร์บอนออกสู่สิ่งแวดล้อมในปริมาณมาก กลายเป็นส่วนหนึ่งของของปัญหา Climate Change ตามมา เช่น การใช้เครื่องบินในการเดินทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ, การขนส่งอุปกรณ์ที่ใช้แสดงบนเวที, การใช้ไฟฟ้าในปริมาณมากต่อครั้ง ไปจนถึงการผลิตสินค้าที่ระลึก

จากแนวคิดดังกล่าวทำให้สมาชิกในวงและทีมงานตั้งเป้าหมายว่า หลังจากการทัวร์คอนเสิร์ต A Head Full of Dreams ในปี 2016-2017 ที่ผ่านมา พวกเขาจึงมีความตั้งใจว่าจะลดการสร้าง “คาร์บอนฟุตพรินต์” ให้ได้มากกว่า 50% ทำให้ในช่วงปีแรกของการทัวร์ Music of the Spheres World Tour เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา พวกเขาสามารถลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ได้น้อยกว่าทัวร์ครั้งก่อนถึง 47% นอกจากนี้ยังปลูกต้นไม้ไปแล้วมากกว่า 5 ล้านต้น ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ว่าจะปลูกต้นไม้ 1 ต้น ต่อการขายบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบ

ล่าสุด “Coldplay” กำลังจะมาเยือนประเทศไทยซ้ำเป็นครั้งที่ 3 พร้อมกับนวัตกรรมการทัวร์คอนเสิร์ตแบบรักษ์โลก โดยการเริ่มใช้ระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้ามาทำโชว์คอนเสิร์ตทั้งหมด เพื่อใช้เป็นพลังงานหมุนเวียนได้ 100% อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังเพิ่มกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับแฟนคลับอีกด้วย

• ทัวร์คอนเสิร์ตแบบรักษ์โลกไปกับ “Coldplay”

สำหรับนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจของ Coldplay ในทัวร์คอนเสิร์ต Music of the Spheres World Tour ก็คือการชักชวนแฟนคลับให้มาร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในคอนเสิร์ต เช่น จักรยานผลิตไฟฟ้าที่แฟนคลับสามารถปั่นระหว่างรับชมคอนเสิร์ตได้ โดยแต่ละคันจะสร้างพลังงานที่จะถูกบรรจุไว้ในแบตเตอรี่ แล้วถูกนำไปใช้ในส่วนต่างๆ ของโชว์ได้เฉลี่ย 200 วัตต์ รวมถึงใช้แผ่นพลังงานจลน์มาทำเป็นฟลอร์เต้นรำแบบพิเศษที่เรียกว่า Kinetic Dance Floor สามารถผลิตพลังงานได้จากการเคลื่อนไหวของผู้คนบนฟลอร์ รองรับคนได้จำนวนมาก และก่อนการแสดงยังมีกิจกรรมพิเศษ ชวนแฟนคลับแข่งกันปั่นจักรยานสร้างไฟฟ้า เพื่อหากลุ่มแฟนคลับที่พลังงานผลิตไฟได้มากที่สุดอีกด้วย

นอกจากนี้ในการจัดแสดงโชว์ยังมีการใช้พลังงานจากธรรมชาติมาหมุนเวียนอีกด้วย เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และไบโอดีเซลหมุนเวียน และเพื่อเป็นการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้มากที่สุด พวกเขาจึงเลือกใช้วัสดุประกอบการแสดงจากวัสดุท้องถิ่นเป็นหลัก เช่น สร้างเวทีจากวัสดุทดแทน (Renewable Materials) ได้แก่ ไม้ไผ่ และเหล็กรีไซเคิล เพื่อลดการขนอุปกรณ์ประกอบเวทีที่ไม่จำเป็น

รวมถึงมีการติดตั้งแผงโซลาเซลล์รอบเวทีที่ใช้จัดแสดง นี่ยังไม่นับการที่สมาชิกวงและทีมงานเน้นเดินทางด้วยยานพาหนะไฟฟ้าหรือรถไฟ และหากสามารถเลือกได้ พวกเขาก็จะเลือกใช้สายการบินที่ใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) แทนที่จะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำหรือ Private Jet

การกลับมาจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งล่าสุดของ Coldplay ได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งพวกเขาเองก็ขอขอบคุณแฟนคลับที่ร่วมรักษ์โลกไปด้วยกัน เช่น ใช้รถสาธารณะหรือเดินเท้ามาคอนเสิร์ต นำขวดน้ำมาเองเพื่อลดการใช้ขวดน้ำพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมต่างๆ นั้น นอกจากช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว พวกเขายังมองว่าเป็นการทำให้แฟนคลับได้เป็นส่วนหนึ่งของวงมากขึ้นอีกด้วย

• อุตสาหกรรมดนตรี ก็รักษาสิ่งแวดล้อมได้

หลังจากเกิดปัญหาโควิด-19 ระบาด ทำให้ “อุตสาหกรรมดนตรี” ทั่วโลกได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการจัดทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปิน ดังนั้นเมื่อภาวะดังกล่าวเริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นในบางประเทศช่วงปี 2019 ทำให้ค่ายเพลงและศิลปินส่วนใหญ่เริ่มกลับมาจัดทัวร์คอนเสิร์ตได้อีกครั้ง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า การจัดคอนเสิร์ตในแต่ละครั้งก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานในภาพรวมที่ต้องใช้ในการจัดงาน การเดินทางของศิลปิน ทีมงาน และผู้ชมจำนวนมาก ไปจนถึงการผลิตสินค้าที่ระลึก เป็นต้น

จากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าวทำให้ค่ายเพลง ผู้จัด และ ศิลปิน เริ่มหาทางแก้ปัญหาเหล่านี้ในการทัวร์คอนเสิร์ตมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีข้อมูลว่า การจัดคอนเสิร์ตในสหราชอาณาจักรมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมกันอยู่ที่ 405,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี และสิ่งที่ทำให้เกิด “คาร์บอนฟุตพรินต์” มากที่สุดก็คือ การใช้พลังงานในสถานที่จัดงาน และ การเดินทางของผู้ชม

ดังนั้นจึงมีการรวมตัวกันของคนในแวดวงอุตสาหกรรมดนตรี ทั้ง ศิลปิน บุคลากร บริษัท และองค์กรต่างๆ เรียกว่า Music Declares Emergency เพื่อสร้างความตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาและผลกระทบต่อ “Climate Change” ที่เกิดขึ้นจากการจัดคอนเสิร์ต รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือ 0% ภายในปี 2030

รู้หรือไม่? ไม่ใช่แค่ Coldplay เท่านั้น ที่หันมาจัดคอนเสิร์ตแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ยังมี Billie Eilish (บิลลี่ ไอลิช) ที่เธอตั้งใจว่าจะกำจัดน้ำดื่มแบบขวดที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งให้ได้ประมาณ 35,000 ขวด ออกจากการทัวร์คอนเสิร์ต และเสิร์ฟเฉพาะอาหารมังสวิรัติหรืออาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ที่ด้านหลังเวที

ด้าน Shawn Mendes (ฌอน เมนเดส) ก็พยายามที่จะพักในโรงแรมที่มีนโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมถึงเลือกใช้สายการบินแบบ SAF เช่นเดียวกัน ซึ่งในปัจจุบันก็มีศิลปินอีกหลายคนหันมาใส่ใจในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการจัดคอนเสิร์ตมากขึ้น

อ้างอิงข้อมูล : billboard, CBC, VOA Thai, Urban Creature, Thestandard และ ป่าสาละ