โครงการ CCMB จับมือพันธมิตร ดันไทยรับมือสภาพอากาศ หนุนท่องเที่ยวยั่งยืน
โครงการ CCMB จับมือพันธมิตร องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ดันไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง และการจัดการการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย ร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) โดยการสนับสนุนจากแผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (International Climate Initiative: IKI) ของกระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (Federal Ministry for Economic Affairs and Climate Action: BMWK) จัดการประชุมโครงการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง (Climate, Coastal and Marine Biodiversity: CCMB) ในวันจันทร์ (5 ก.พ.67) เพื่อชี้แจงแนวทาง และแผนงานของโครงการฯ พร้อมสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ฮานส์ อูลริช ซูดเบค อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศเยอรมนี และไทยเป็นพันธมิตรด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนมาอย่างยาวนาน และแผนงาน IKI ที่ก่อตั้งโดยรัฐบาลเยอรมนี เมื่อ 16 ปีก่อนมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและร่วมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ทั้งยังช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างไทย และเยอรมนีเป็นอย่างดี จนทำให้มีพันธมิตรจากหลากสาขาในหลายโครงการ สำหรับโครงการ CCMB ที่ดำเนินการโดย GIZ ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ลดการปล่อยคาร์บอน รักษาความหลากหลายทางชีวภาพของทะเลและชายฝั่ง
ฮานส์ อูลริช ซูดเบค
ด้าน ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เผยว่า โครงการ CCMB มุ่งดำเนินงานด้านนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศ การอนุรักษ์ความหลากหลายชีวภาพทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยทำงานผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย ทั้งเครื่องมือทางกฎหมาย เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ และเครื่องมือเชิงพื้นที่ เช่น พื้นที่คุ้มครองทางทะเล พื้นที่ที่มีมาตรการคุ้มครองอื่นที่มีประสิทธิภาพ (Other Effective Area-based Conservation Measures: OECMs) และพื้นที่ที่มีความสำคัญเชิงนิเวศหรือชีววิทยา นอกจากนั้น โครงการฯ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญผ่านการให้งบประมาณสนับสนุนแก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย เป็นต้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญของไทยจากหลากหลายสาขาได้เข้ามาสนับสนุนทางวิชาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนการทำงานต่อไป
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช
ขณะที่ เถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับขีดจำกัดของโลกว่า ปัจจุบันกิจกรรมจากน้ำมือมนุษย์ได้กระตุ้นให้เกิดการละเมิดขีดจำกัดนี้ไปแล้วอย่างน้อย 6 ด้านจากทั้งหมด 9 ด้าน ได้แก่ (1) การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (2) การสร้างมลภาวะที่เกิดจากธาตุอาหารพืชโดยเฉพาะไนโตรเจน และฟอสฟอรัสที่มากเกินไป (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) การเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศทางบกโดยเฉพาะการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ (5) การเปลี่ยนแปลงของวัฏจักรน้ำจืด และ (6) มลภาวะจากสารเคมีและสิ่งที่ผลิตจากมนุษย์ เช่น ยาฆ่าแมลงและยากำจัดศัตรูพืช สารเคมีทางอุตสาหกรรม และไมโครพลาสติก
เถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ
“โครงการ CCMB ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับความท้าทายระดับโลกที่มีความเชื่อมโยงกัน พร้อมเปิดโอกาสให้หลายหน่วยงานในไทยได้ร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกันต่อไป” เถลิงศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อสำคัญ ได้แก่ "นโยบายไทยในวาระโลก:มุมมองของการมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Decarbonisation) การสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience) และการพัฒนาที่ส่งผลเชิงบวกต่อธรรมชาติ (Nature Positive Development)" โดยรองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว
กิจกรรม TED Talk หัวข้อ "มุมมองผู้เชี่ยวชาญในการมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ การสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ส่งผลเชิงบวกต่อธรรมชาติ" โดย รศ.ดร.บัณฑิต ลิ้มมีโชคชัย จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณศุภกร ชินวรรโณ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.วิชิน สืบปาละ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง
และปิดท้ายด้วยการเสวนาในหัวข้อ "การเดินทางเพื่อขับเคลื่อนสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ การสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาที่ส่งผลเชิงบวกต่อธรรมชาติ" โดยคุณสุวิทย์ นะวะคำ จากสถาบันปลูกป่าและนิเวศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คุณชุตินันท์ โมรา ช่างภาพ/วิดีโอใต้น้ำระดับเอเชีย และผู้ก่อตั้งเพจ Sea Slug Thailand และคุณกิตติคุณ ศักดิ์สูง ตัวแทนจากเครือข่ายเยาวชนระดับโลกเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ ประจำภูมิภาคเอเชีย (GYBNAsia) ดำเนินรายการโดย ดร.เพชร มโนปวิตร นายกสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์