‘ฮ่องกง’ เพิ่มโทษ ให้อาหาร ‘นกพิราบ’ ปรับ 470,000 บาท หลังนกหากินเองไม่เป็น

ทุกวันนี้เราสามารถเห็น “นกพิราบ” ได้ทั่วทุกที่ในเขตเมืองและไม่กลัวคน ทำให้ผู้คนที่ผ่านมาไปเอ็นดูจนอยากให้อาหารพวกมัน ซึ่งจะยิ่งให้นกพิราบมาอาศัยบริเวณนั้นเพิ่มมากขึ้น จนเกิดเป็นปัญหาความสกปรกของพื้นที่สาธารณะ ทั้งจากเศษอาหารและขี้นก สร้างความเดือดร้อนรำคาญ ไม่สะดวกสบายแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้สัญจรไปมา

นอกจากนี้ การให้อาหารนกพิราบบ่อย ๆ จะทำให้พวกมันเสียนิสัย และไม่สามารถหาอาหารได้เอง รอแต่อาหารจากมนุษย์ พร้อมเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคและการแพร่กระจายของเชื้อโรคหลายชนิด เช่น ไข้หวัดนก ไข้นกแก้ว และอื่น ๆ ที่อยู่ในขี้นก

ทำให้ฮ่องกงจะบังคับใช้คำสั่งห้ามให้อาหารนกพิราบตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 หลังจากการผ่านร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางการได้ดำเนินโครงการทดลองใช้ยาคุมกำเนิดกับนกพิราบเมือง เพื่อควบคุมจำนวนประชากรและบรรเทาความรำคาญในที่สาธารณะ 

ข้อกฎหมายเดิมระบุไว้เพียง ห้ามให้อาหารสัตว์ป่า เช่น ลิง หมูป่า และนกกระจอกบ้าน กระทำความผิดต้องระวางโทษปรับสูงสุด 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 47,000 บาท แต่นกพิราบจัดเป็นสัตว์เลี้ยงตามกฎหมายทั่วไป จึงอยู่นอกเหนือคำจำกัดความของสัตว์ป่าภายใต้กฎหมายดังกล่าว 

ดังนั้นการเอาผิดกับผู้ที่ให้อาหารนกพิราบจึงทำได้แค่ตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายความสะอาดสาธารณะเท่านั้น การแก้กฎหมายให้จึงช่วยปิดช่องโหว่ดังกล่าวและ เพิ่มโทษสูงสุดเป็นปรับไม่เกิน 100,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 470,000 บาท หรือจำคุก 1 ปี

เจ้าหน้าที่จะสามารถใช้กฎหมายนี้ได้ ประกอบไปด้วย ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากกรมสุขอนามัยด้านอาหารและสิ่งแวดล้อม กรมบริการด้านสันทนาการและวัฒนธรรม กรมการเคหะ และกรมเกษตร การประมง และการอนุรักษ์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถขอข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคล เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และหลักฐานประจำตัวของผู้กระทำความผิดเพื่อตรวจสอบได้ 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถปรับได้ทันที 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หากพบการกระทำผิดซึ่งหน้า และสามารถส่งดำเนินคดีต่อศาลได้ หากมีการกระทำที่ร้ายแรง เช่น กระทำความผิดซ้ำ ๆ 

อย่างไรก็ตาม กฎหมายใหม่นี้ ไม่รวมถึงนกพิราบเลี้ยง นกพิราบแข่ง และนกที่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ ตลอดจนสัตว์จรจัด เช่น แมว สุนัข หรือวัว

ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะเคยกล่าวว่าบทลงโทษเดิมไม่เหมาะสมกับการกระทำความผิด แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า บทลงโทษใหม่รุนแรงเพียงพอในการสะท้อนถึงผลกระทบร้ายแรงจากการให้อาหารนกพิราบ ซึ่งจะช่วยยับยั้งการกระทำผิดได้ดียิ่งขึ้น

รัฐบาลฮ่องกง จะพิจารณาติดตั้งกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดดำให้อาหารที่ผิดกฎหมายด้วย ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้แก่สาธารณชนผ่านนิทรรศการท่องเที่ยว บูธริมถนน การเสวนาในที่สาธารณะ และเว็บไซต์เฉพาะเรื่อง เพื่ออธิบายผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการให้อาหารนกพิราบ พร้อมให้คำปรึกษา แนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง 

“รัฐบาลจะมุ่งเน้นไปที่การให้ความรู้สาธารณะและการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ ขณะเดียวกันก็เสริมความพยายามเหล่านี้ด้วยการบังคับใช้กฎหมาย” เซ ชิน-วาน รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยากล่าว

 

 

 

ที่มา: Hong Kong, South China Morning Post