'อายิโนะโมะโต๊ะ' กับธุรกิจที่มีความยั่งยืนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
!['อายิโนะโมะโต๊ะ' กับธุรกิจที่มีความยั่งยืนสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/06/yt4GIy4djleoL2AxG2DE.webp?x-image-process=style/LG)
ธุรกิจกับความยั่งยืนเป็นนั้นนเรื่องที่สำคัญมากในปัจจุบันเพราะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านทำให้สิ่งแวดล้อมและชุมชนอยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืนมากขึ้น
ภาณุภัตติ ภาณุโรจภา ผู้จัดการโรงงานอยุธยา บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) กล่าวว่า อายิโนะโมะโต๊ะบริหารจัดการธุรกิจภายใต้เป้าหมายการสร้างโรงงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ปี 2050 และนำระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่ยอมรับในระดับสากลมาใช้ และได้ดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยีที่ใช้ พลังงานหมุนเวียน รวมถึงใช้หลัก 3R (Reduce-Reuse-Recycle)
เพื่อจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด จะนำไปสู่สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นยั่งยืน ภายใต้การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคม สอดรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ผู้คนมีความสุข ภายใต้สิ่งแวดล้อมที่มีความ Resilience
ซึ่งมียุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนในปี 2573 โดยวางแนวทางไว้ 5 ด้านดังน้ี
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 50%
- ดูแลรักษาแหล่งน้ำ 80%
- ลดขยะพลาสติกให้เป็นศูนย์ ด้วยการใช้พลาสติกรีไซเคิล
- ลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหารจากกระบวนการผลิต
- จัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนทั้ง 100%
ทั้งนี้ยังการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นรูปธรรม ในหลายด้านทั้ง ภาคการผลิตในโรงงาน เช่น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการใช้พลังงานทางเลือกและพลังงานหมุนเวียนต่าง ๆ ในกระบวนการผลิตแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 380,000 ตันต่อปี
และยังมีการลดใช้น้ำและพลาสติกจากการดำเนินงาน การปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้เป็นวัสดุที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ลดปริมาณการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ได้ถึง 70% หรือประมาณ 1,300 ตัน นอกจากนี้ ยูนิฟอร์มของพนักงานอายิโนะโมะโต๊ะยังถูกผลิตขึ้นจากขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว จึงร่วมลดปริมาณขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นรวมถึงการใช้รถอีวีในการขนส่งอีกด้วย
ภาคการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นพิจารณาเพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เกี่ยวเนื่องกับการได้มาซึ่งวัตถุดิบหรือสินค้าในห่วงโซ่อุปทาน โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จในการดำเนินการเลือกใช้กระดาษที่ผ่านการรับรอง FSC ได้ทั้งหมด 100% การเลือกใช้น้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์จากปาล์ม ที่ผ่านการรับรอง RSPO กว่า 100% และการเลือกใช้เนื้อหมูที่ได้จากการเลี้ยงที่คำนึงถึง Animal welfare
ภาคครัวเรือน จัดโครงการ “Too Good To Waste กินหมดลดโลกร้อน” เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการร่วมลดขยะอาหารแก่ผู้บริโภคผ่าน “สูตรอาหารรักษ์โลก”
ภาคเกษตรกรรม ต่อยอดองค์ความรู้ด้านกรดอะมิโนผ่านผลิตภัณฑ์ร่วมที่ได้จากกระบวนการผลิตผงชูรส เข้าไปสนับสนุนเกษตรกรให้สามารถผลิตผลผลิตได้อย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Ajinomoto Biocycle”ซึ่งเป็นแนวทางวัฏจักรชีวภาพในกระบวนการผลิต
และส่งเสริมวัฏจักรชีวภาพ หรือ Bio-cycle โดยบริษัทฯ รับวัตถุดิบมาจากภาคการเกษตร โดยเฉพาะแป้งมันสำปะหลังมากกว่า 150,000 ตันต่อปี รวมถึงเมล็ดกาแฟจากแหล่งผลิตภายในประเทศกว่า 1,500 ตันต่อปี
เข้าสู่วงจรการผลิต ซึ่งน้ำหมักที่ได้จากกระบวนการผลิตผงชูรสยังอุดมไปด้วยสารอาหารจำนวนมาก จึงนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ร่วม ได้แก่ ปุ๋ยน้ำสำหรับพืช หรืออาหารสัตว์ เพื่อสร้างประโยชน์กลับคืนสู่ภาคเกษตรกรรม รวมถึงการเปลี่ยนจากพลังงานฟอสซิลมาใช้พลังงานชีวมวล
เช่น แกลบที่เหลือทิ้งจากภาคการเกษตร ก็สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตพลังงานไอน้ำใช้ภายในโรงงาน ส่วนขี้เถ้าแกลบที่เหลือจากการผลิตพลังงาน ก็ถูกนำมาพัฒนาเป็นวัสดุปรับปรุงดินให้กับเกษตรกร เพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตต่อไป เกิดเป็นวงจรที่สนับสนุนซึ่งกันและกันระหว่างอายิโนะโมะโต๊ะกับเกษตรกร
ทั้งหมดนี้คือการดำเนินงานของบริษัท เพื่อบรรลุเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรธุรกิจคาร์บอนต่ำได้อย่างยั่งยืน