ปลาหมอสีคางดำ ต้องทำมากกว่าจับ ทำอย่างเป็นระบบ

หลังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศยกระดับการแก้ปัญหา ปลาหมอสีคางดำเป็น วาระแห่งชาติ โดยเฉพาะใน 13 จังหวัด ที่มีการแพร่ระบาด และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและรวดเร็ว

KEY

POINTS

  • Key points สรุปจากกองบรรณาธิการ...
  • นักวิชาการด้านสัตว์น้ำ ขอตั้งสังเกตว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในประเทศไทยขณะนี้มาไกลเกินกว่าจะไปหา “ตัวคนนำเข้า” 
  • แนวทางที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดที่จะสามารถลดจำนวนประชากรปลาให้ได้สูงสุด ที่สำคัญรัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณมาสนับสนุนการทำงานและการวิจัย เพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะยาว
  • การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของปลาหมอสีคางดำขณะนี้ อาจสืบเนื่องมาจากภาวะโลกเดือดและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้ปลาต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

วาระแห่งชาตินี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนการทำงาน ให้เห็นผลตามเป้าหมายเบื้องต้นของรัฐบาล คือ ลดปริมาณปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติด้วยการจับปลา จับอย่างถูกวิธี และจับด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม

ทำให้มีการจัดกิจกรรมจับปลาหมอสีคางดำในรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด มีทั้งแคมเปญ “ไล่ล่าปลาหมอสีคางดำ” หรือ “ลงแขกลงคลอง” ตลอดจนมีการริเริ่มมาตรการจูงใจในการระดมคนมาจับปลา ให้ปลาฟรีโดยไม่คิดมูลค่า

หรือ หากจับได้มากเกินไปก็ขายให้กับผู้รับซื้อได้ในราคาตั้งต้นสำหรับปลาคละไซด์ที่ 10 บาทต่อกิโลกรัม 

ในฐานะนักวิชาการด้านสัตว์น้ำ ขอตั้งสังเกตว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในประเทศไทยขณะนี้มาไกลเกินกว่าจะไปหาตัวคนนำเข้า แต่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ หาทางชะลอการแพร่ระบาดของปลาชนิดนี้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ

ภาครัฐต้องนำทีมระดมสมองนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญสัตว์น้ำของไทย มาร่วมกับหาแนวทางที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด ที่จะสามารถลดจำนวนประชากรปลาให้ได้สูงสุด ที่สำคัญรัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณมาสนับสนุนการทำงานและการวิจัย เพื่อประโยชน์ของประเทศในระยะยาว

การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของปลาหมอสีคางดำขณะนี้ อาจสืบเนื่องมาจากภาวะโลกเดือดและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้ปลาต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

ปลาชนิดนี้เป็นปลาที่สามารถปรับตัวทนต่อความเค็มได้ดี เนื่องจากมีต่อมขับเกลือเพื่อรักษาสมดุลร่างกาย ทำให้สามารถที่จะอยู่ในน้ำที่มีความเค็มแตกต่างกันได้ดี  ซึ่งพบว่าปลาหมอสีคางดำสามารถที่จะดำรงชีวิตและแพร่พันธุ์ได้ทั้งในน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม

ดังนั้น การจับปลาชนิดนี้ต้องจับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการไล่จับปลาเป็นเทศกาลหรือเป็นครั้งคราวนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ปลาหมอสีคางดำ ต้องทำมากกว่าจับ ทำอย่างเป็นระบบ

การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาสายพันธุ์ต่างถิ่นชนิดนี้ ควรมีการศึกษา วิจัย วางแผนและบริหารจัดการแบบองค์รวมและทำอย่างเป็นระบบ 3 ระยะ คือ ระยะต้นหรือระยะเร่งด่วน ควรส่งเสริมให้เป็นอาหารของคน เป็นอาหารประจำถิ่น (Signature) ของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างความต้องการ

ระยะกลาง ควรทำการศึกษาวงจรชีวิตของปลาหมอสีคางดำ เพื่อเรียนรู้สภาพแวดล้อมที่ปลาแพร่พันธุ์ได้ดีที่สุด ช่วงระยะเวลาวางไข่ ช่วงเป็นตัวอ่อน ในการตัดวงจรชีวิตของปลาตั้งแต่ต้นทาง และระยะยาว

ต้องให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับชุมชนเกี่ยวกับสายพันธุ์ปลาหมอสีคางดำอย่างถูกต้อง

วิธีการสร้างความสมดุลทางนิเวศ ภายในชุมชนของสิ่งมีชีวิตให้อยู่ในสภาพคงที่ เพื่อร่วมมือกันในการกำจัดปลาอย่างเป็นระบบ 

ทั้งนี้ การแก้ปัญหาในระยะต้น ควรผนวกการเพิ่มมูลค่าเนื้อปลาหมอสีคางดำ ด้วยการแปรรูปเป็นอาหารและผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย โดยดำเนินกิจกรรมการทางการตลาดส่งเสริมการบริโภคต่อเนื่อง

และต้องกำหนดการรับซื้อปลาในราคาที่เป็นธรรมกับผู้จับและผู้แปรรูปควบคู่ไปกับการส่งเสริมการบริโภคจนเป็นที่นิยม เพื่อกระตุ้นความต้องการของตลาดให้เพิ่มขึ้น 

การศึกษาแนวทางของประเทศ ที่เคยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้ไทยเดินหน้าแก้ปัญหาได้ทันต่อเหตุการณ์

เช่น รัฐบาลสหรัฐ ที่มีการนำเข้าปลาหมอสีคางดำชนิดนี้เพื่อการศึกษาวิจัย เพื่อเป็นเหยื่อของปลาทูน่า แต่ปลาเกิดหลุดรอดไปและเกิดการระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติจำนวนมาก

จนต้องร่วมมือกับชาวประมงในพื้นที่ใช้ตาข่ายจับปลาและประกาศห้ามนำเข้าปลาชนิดนี้ทันที นอกจากนี้ ยังมีการตรวจตราและเฝ้าระวังการแพร่กระจายของปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติในรัฐฮาวายอย่างต่อเนื่อง

ปลาหมอสีคางดำ ต้องทำมากกว่าจับ ทำอย่างเป็นระบบ

จากข้อมูลข้างต้น สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็ว คือ การควบคุมให้การแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำอยู่ในวงจำกัด ด้วยการตัดวงจรชีวิตปลา และต้องคุมเข้มเรื่องการนำเข้าพันธุ์ปลาหรือสัตว์น้ำต้องห้ามอย่างเข้มงวด

ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า ตรวจสอบและปิดช่องว่างเหล่านั้นแบบถาวร เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนให้กับคนไทยทุกคน.