“นวัตกรรมทางการเงินเพื่อความยั่งยืน: ก้าวสำคัญสู่อนาคตของธุรกิจไทย”

“นวัตกรรมทางการเงินเพื่อความยั่งยืน:   ก้าวสำคัญสู่อนาคตของธุรกิจไทย”

ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน นวัตกรรมทางการเงิน (Innovative Financial Solution) เป็นตัวช่วยสำคัญที่เปิดโอกาสให้กับภาคธุรกิจไทยอยู่ได้อย่างยั่งยืน

และเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับทุกภาคส่วน ตัวอย่างนวัตกรรมทางการเงินที่น่าสนใจ:

1. ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน: นวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าหรือเงื่อนไขที่ดีกว่าตราสารหนี้ปกติ เป็นการสร้างแรงจูงใจทางการเงินเพื่อให้ธุรกิจพัฒนาและบรรลุเป้าหมายด้าน ESG

2. ประกันภัยที่ออกแบบโดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS): เป็นการนำเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงมาวิเคราะห์ความเสี่ยงและออกแบบประกันภัย เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนและปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. ดัชนีด้านความยั่งยืน: เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถประเมินและเปรียบเทียบผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัทต่าง ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้บริษัทที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่ดี สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้มากขึ้น เปิดโอกาสในการเติบโตและพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน

4. ตลาดคาร์บอนและคาร์บอนเครดิต: นวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยใช้กลไกตลาดเพื่อสร้างแรงจูงใจทางการเงินให้กับบริษัทในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและพัฒนาโครงการด้านความยั่งยืน ผ่านการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต ถือเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับบริษัทที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยี/โซลูชันในการดูดกลับก๊าซเรือนกระจก

ตัวอย่างนวัตกรรมทางการเงินข้างต้นช่วยเปิดโอกาสสำคัญให้กับธุรกิจไทยในการเข้าถึงแหล่งทุนที่หลากหลายด้วยต้นทุนที่ต่ำ ตอบโจทย์ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกอีกด้วย ที่สำคัญเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่อุปทานผ่านการสนับสนุนคู่ค้าในการปรับตัวและเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน ช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มความน่าเชื่อถือร่วมกันตลอดห่วงโซ่คุณค่า แม้การเปลี่ยนผ่านการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืนต้องใช้เวลาและทรัพยากร แต่หากมองผลตอบแทนในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่า ธุรกิจไทยต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้าที่หลากหลาย ดึงดูดผู้ลงทุนที่ใส่ใจความยั่งยืน ตลอดจนบุคลากรที่มีความสามารถและมีค่านิยมสอดคล้องกับองค์กร

​แม้วันนี้นวัตกรรมทางการเงินเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับอนาคตของธุรกิจไทย แต่การพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืนอย่างแท้จริงควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจบริบทธุรกิจของตนเอง ระบุผู้มีส่วนได้เสียและกำหนดประเด็นสำคัญ(Materiality) ก่อน แล้วจึงเริ่มต้นก้าวด้วยการวางเป้าหมาย นโยบายและกลยุทธ์การดำเนินงาน และก้าวต่อไปเพื่อขับเคลื่อนตามแนวทางที่วางไว้ โดยต้องเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานและสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างตรงไปตรงมาและสม่ำเสมอ จึงนับเป็นการก้าวอย่างยั่งยืนของธุรกิจ อย่างไรก็ตามการพัฒนาไปข้างหน้าอย่างมั่นคงต้องอาศัยระบบนิเวศที่เกื้อหนุน อาทิ การมีพันธมิตรและเครือข่ายความร่วมมือด้านต่าง ๆ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี และเพิ่มทวีพลังสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในวงกว้างสอดรับกับการเปลี่ยนแปลง นวัตกรรมทางการเงินเพื่อความยั่งยืนไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่สนับสนุนธุรกิจในการพัฒนาและสร้างคุณค่าในระยะยาว แต่ยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนและเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม:

https://setsustainability.com/libraries/1336/item/-innovative-financial-solution-