สตาร์บัคส์ "เดอะ กาดฝรั่ง แม่ริม” จ.เชียงใหม่ สาขาล่าสุดเพื่อชุมชนยั่งยืน
สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชน แห่งที่ 3 "เดอะ กาดฝรั่ง แม่ริม” จ.เชียงใหม่ สะท้อนประเพณีการปลูกกาแฟและมรดกทางวัฒนธรรมของภาคเหนือ พร้อมสนับสนุนชุมชนปลูกกาแฟอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย
สตาร์บัคส์ตั้งเป้าเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยคาร์บอน การใช้น้ำ และขยะลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์หลัก 5 ประการเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ได้แก่
1. ขยายเมนูที่ใช้พืช (Plant-based) เป็นหลัก
2. เปลี่ยนจากการใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้
3. ลงทุนในเกษตรกรรมเชิงฟื้นฟู การปลูกป่า และการอนุรักษ์น้ำในห่วงโซ่อุปทาน
4. พัฒนาวิธีการจัดการขยะที่ดียิ่งขึ้น
5. นวัตกรรมในร้านค้า การดำเนินงาน การผลิต และการจัดส่งที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น
นอกจากนี้ Starbucks ยังเร่งสร้างร้านค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (Community Store) โดยมีร้านทั่วโลกที่ได้รับการรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วกว่า 3,500 แห่งในปี 2022 รวมถึงได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม และมีการตรวจสอบกาแฟ โดยกว่า 98.2% ผ่านมาตรฐาน C.A.F.E Practices สตาร์บัคส์ยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนชุมชน โดยมีการลงทุนในโครงการพัฒนาสังคมต่าง ๆ เช่น การเข้าถึงการศึกษา การฝึกอบรมด้านการเกษตร และการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ
ร้านกาแฟเพื่อชุมชนและความยั่งยืน
ล่าสุด สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เปิดร้าน “สตาร์บัคส์ เดอะ กาดฝรั่ง แม่ริม” จ.เชียงใหม่ เป็นร้านกาแฟเพื่อชุมชน (Community Store) แห่งที่ 3 ในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้สตาร์บัคส์เปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกที่สาขาหลังสวน กรุงเทพฯ ในปี 2013 และแห่งที่ 2 Starbucks Reserve® Chao Phraya Riverfront ที่ ICONSIAM ในปี 2020 ทั้งนี้ Starbucks มีแผนที่จะขยายจำนวนร้าน Community Stores ในประเทศไทยให้ถึง 8 แห่งภายในปี 2030
ภาคเหนือถือเป็นพื้นที่ที่ทำงานร่วมกับสตาร์บัคส์มาอย่างยาวนาน และร่วมคิดค้นกาแฟ ‘ม่วนใจ๋ เบลนด์’ ในปี 2003 ที่มีจำหน่ายเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น
รวมถึงโครงการระบบประปาภูเขา และคลินิกสุขภาพในบ้านห้วยส้มป่อย ซึ่งให้บริการแก่ชาวไร่กาแฟในบ้านห้วยส้มป่อย และชุมชนใกล้เคียงอีก 9 แห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนกว่า 1,600 คน นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการจัดตั้งโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กบ้านแม่ขี้มูกน้อย-บ้านกองกาย โรงเรียนบ้านสองธาร และโครงการเสริมสร้างศักยภาพ การฝึกอบรม และโภชนาการ ซึ่งได้เสริมสร้างศักยภาพให้กับชาวบ้านบนพื้นที่สูงกว่า 900 คน โดยการให้ความรู้ในหลากหลายวิชาชีพ
สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น
ร้านสตาร์บัคส์ เดอะ กาดฝรั่ง แม่ริม ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากประเพณีการปลูกกาแฟและมรดกทางวัฒนธรรมของภาคเหนือของไทย ตกแต่งด้วยไม้ระแนงโทนสีอบอุ่น สร้างเสน่ห์แบบเรียบง่ายกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สีเอิร์ธโทนสะท้อนถึงความเชื่อมโยงของชุมชนกับธรรมชาติ และโทนสีอุ่นสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันอย่างยั่งยืนระหว่างชุมชนและผืนดินที่ปลูกกาแฟ
เพื่อแสดงถึงความทุ่มเทของชาวไร่กาแฟ ร้านจึงตกแต่งด้วยผลงานศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ ซึ่งผ้าทอแต่ละผืน ถูกถักทอโดยช่างทอผ้าและช่างฝีมือระดับท้องถิ่น โดยผ้าทอแต่ละผืนบอกเล่าเรื่องราวของความหลากหลายของชุมชนชาวเขารวมถึงผลงานฝีมือดั้งเดิม โดยได้นำมาประดับภายในร้านเพื่อแสดงถึงความมีชีวิตชีวา และสะท้อนความหลากหลายของชุมชนทางภาคเหนือ
ไร่กาแฟเข้มแข็ง
สำหรับเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วที่ซื้อที่ร้านสาขานี้ สตาร์บัคส์จะบริจาคเงิน 10 บาทแก่มูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไร่กาแฟในภาคเหนือของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เฉพาะสาขานี้กับ ม่วนใจ๋ ไวท์ ช็อกโกแลต อัฟโฟกาโต-สไตล์ แฟรบปูชิโน่ (Muan JaiTM White Chocolate Affogato-Style Frappuccino® Blended Beverage)
และสินค้าคอลเลกชันพิเศษ อาทิ แก้วเบญจรงค์ ดริ้งแวร์ พวงกุญแจ กระเป๋า และที่รองแก้วที่มีส่วนประกอบของกากกาแฟ คอลเลกชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกาแฟและชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของประเทศไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สดใส โดยจะวางจำหน่ายที่ร้านสาขานี้เป็นที่แรก
นอกจากนี้ มูลนิธิสตาร์บัคส์ (The Starbucks Foundation) ยังได้มอบทุนสนับสนุนโครงการ Global Community Impact Grant มูลค่า 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Foundation หรือ ITDF) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาชุมชนผู้ปลูกกาแฟในภาคเหนือของประเทศไทย
โดยมูลนิธิฯ จะเป็นผู้นำในการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านทักษะการดำรงชีวิต สนับสนุนโครงการริเริ่มเพื่อส่งเสริมการพัฒนาด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย รวมถึงโภชนาการ และการจัดหาทรัพยากร เพื่อเชื่อมโยงสมาชิก ชุมชนชาวเขากว่า 600 คน ให้ได้รับโอกาสดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสตาร์บัคส์ ประเทศไทยได้สนับสนุนชุมชนผู้ปลูกกาแฟในภาคเหนือของประเทศไทยไปแล้วกว่า 27 ล้านบาท