สวีเดน ‘ปลูกผักขายในห้าง’ ได้ของสด ไร้สารพิษ ใช้น้ำน้อย ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอน
“SweGreen” สตาร์ทอัพฟาร์มแนวตั้งสัญชาติสวีเดน ปลูกผักในซูเปอร์มาร์เก็ต ด้วยกรรมวิธีไฮโดรโปนิกส์ ปลูกพืชในน้ำโดยไม่ใช้ดิน
KEY
POINTS
- “SweGreen” สตาร์ทอัพของสวีเดน ปลูกผักขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ลดปัญหาการใช้น้ำ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ลูกค้าได้ผักสด ไร้สารเคมี
- แปลงปลูกผักแนวตั้งนี้กรรมวิธีไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกผักในแร่ใยหินด้วยน้ำโดยไม่ใช้ดิน สามารถปลูกพืชได้มากถึง 100 สายพันธุ์
- บริษัทใช้เอไอช่วยในการบอกวิธีการดูแลผัก เพื่อให้พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะได้ผลผลิตตามที่ต้องการในแต่ละวัน
“SweGreen” สตาร์ทอัพของสวีเดน ปลูกผักขายในซูเปอร์มาร์เก็ต สร้างแนวทางรับมือกับปัญหาการขาดแคลนน้ำ พื้นที่เกษตรกรรมที่ไม่เพียงพอ ลดการพึ่งพาภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก และเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการทำการเกษตร
การปลูกผักใบเขียวในท้องถิ่นจะช่วยลดการนำเข้าสินค้า ลดการปล่อยมลพิษจากการขนส่ง ทำให้เก็บได้นานขึ้น และปรับปรุงรสชาติของผักให้ดีขึ้น ซึ่ง SweGreen ได้ปลูกผักแนวตั้งในซูเปอร์มาร์เก็ตโดยกรรมวิธีไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งเป็นการปลูกผักในแร่ใยหินด้วยน้ำโดยไม่ใช้ดิน
ปัจจุบันแปลงผักของ SweGreen มีวางขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าของสวีเดนและเยอรมนี เมื่อลูกค้าเจอพืชผักที่ถูกใจ พวกเขาก็สามารถเก็บผักต้นนั้นออกมาแล้วนำไปจ่ายเงินได้ทันที
ปิแอร์ มูห์ลิน ซีอีโอของ Swegreen กล่าวว่า “ผลตอบรับเป็นไปในเชิงบวกอย่างเหลือเชื่อ เป้าหมายของเราคือการสร้างระบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในท้องถิ่น และการมีฟาร์มในซูเปอร์มาร์เก็ตถือเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”
แปลงปลูกผักอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการควบคุมและได้รับการปกป้องอย่างดี ให้ปลอดภัยจากศัตรูพืชและวัชพืช ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารกำจัดวัชพืช มั่นใจได้ว่าจะได้ผักที่สด สะอาด ปลอดภัย มีกินตลอดทั้งปี
แปลงผักในห้างของ SweGreen
เครดิตภาพ: อินสตาแกรม SweGreen
นอกจากนี้ แปลงผักยังใช้ระบบน้ำหมุนเวียน ทำให้ใช้น้ำน้อยกว่าการทำการเกษตรแบบดั้งเดิมมาก สามารถปลูกผักกาดหอม 1 กิโลกรัม โดยใช้น้ำเพียง 1 ลิตรเท่านั้น ซึ่งใช้น้ำน้อยลงกว่าการปลูกผักกาดหอมในพื้นที่กลางแจ้งถึง 99% ที่ต้องใช้น้ำประมาณ 250 ลิตร
เนื่องด้วยพืชผักถูกปลูกในห้างสรรพสินค้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องขนส่งสินค้าข้ามทวีป ไม่เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สตาร์ทอัพระบุว่า แพลตฟอร์มการเพาะปลูกแต่ละแห่งสามารถปลูกผักได้ในปริมาณที่เทียบเท่ากับพื้นที่เกษตรกรรมขนาด 30,000 ตารางเมตร และสามารถปลูกพืชได้มากถึง 100 สายพันธุ์ รวมถึงผักกาดหอม ผักชีลาว สะระแหน่ และผักชีฝรั่ง
เซเพอร์ มูซาวี หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรมและหัวหน้า SweGreen X กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทกำลังจะเริ่มทดสอบปลูกไม้ผล และกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะปลูกสตรอว์เบอร์รี
ผู้บริโภคเลือกซื้อผักจากแปลงผักในห้างของ SweGreen
เครดิตภาพ: อินสตาแกรม SweGreen
ใช้ AI ช่วยทำฟาร์ม
การเจริญเติบโตของพืช ฤดูกาล และความต้องการของผู้บริโภคเป็นความท้าทายของคนที่ทำงานเกษตกรรม และ SweGreen ก็เจอความท้าทายมากเข้าอีกจากการปลูกผักในห้าง ดังนั้นบริษัทจึงหันมาใช้เอไอเพื่อช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
“เรามีเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วย เพื่อให้พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตต้องรู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะได้ผลผลิตตามที่ต้องการในแต่ละวัน” มูซาวีกล่าว
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของซูเปอร์มาร์เก็ตและความต้องการของลูกค้าด้วย โดยทางห้างสรรพสินค้าสามารถเลือกขนาดพื้นที่เพาะปลูกได้ ซึ่งขนาดมาตรฐานของฟาร์มแนวตั้งอยู่ที่ 45 ตารางเมตร ซึ่งมีกำลังการผลิต 300 ไร่ต่อวัน และสามารถลดขนาดพื้นที่เพาะปลูกลงให้เหลือ 12 ตารางเมตรและปลูกได้สูงสุด 116 ไร่ต่อวัน
ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ใช่เพียงแห่งเดียวที่กำลังมองหาโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร้านอาหาร โรงแรม มหาวิทยาลัย และเจ้าของทรัพย์สินต่างก็อยากได้เกษตรแนวตั้งด้วยเช่นกัน
Fotografiska Stockholm พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยด้านการถ่ายภาพ ศิลปะ และวัฒนธรรม ได้นำโซลูชันนี้มาใช้กับในร้านอาหารของพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ได้เมนูตามฤดูกาลและยั่งยืน
“พวกเราร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และเชฟของร้าน เพื่อหาว่าทางร้านควรปลูกพืชชนิดใดบ้าง สำหรับใช้ประกอบอาหาร เป็นผักตกแต่ง เพื่อให้คุณค่าทางโภชนาการ เพื่อรสชาติที่แปลกใหม่สำหรับค็อกเทล รวมถึงมองหาอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีรสชาติดี และสามารถใช้เป็นจุดเด่นของจานอาหารได้อีกด้วย” มูซาวีกล่าว
SweGreen ได้รับรางวัลและเสนอชื่อเข้าชิงหลายครั้งในด้านการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน ในปี 2023 บริษัทได้รับรางวัล IKANO Sustainability Award และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล FoodTech 500 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นรายชื่อระดับโลกที่เน้นถึงสตาร์ทอัพและบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกสำหรับอนาคตของอาหาร เทคโนโลยี และความยั่งยืน
ที่มา: Dagens industri, Euro New, Vertical Farm Daily
ตู้จำหน่ายผัก SweGreen
เครดิตภาพ: อินสตาแกรม SweGreen