สมาคมอาหารสัตว์-ปศุสัตว์ แก้ปัญหา PM2.5 เผาข้าวโพดเราไม่ซื้อทั้งใน-นอกประเทศ

สมาคมอาหารสัตว์-ปศุสัตว์ แก้ปัญหา PM2.5 เผาข้าวโพดเราไม่ซื้อทั้งใน-นอกประเทศ

สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมภาคปศุสัตว์ ร่วมหนุนนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ประกาศไม่รับซื้อผลผลิตข้าวโพดอาหารสัตว์จากแปลงเผาทั้งในประเทศและต่างประเทศ มุ่งการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สนองความต้องการของตลาดที่ยั่งยืน

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมภาคปศุสัตว์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนภาคธุรกิจต่อเนื่องตลอดห่วงโซ่ปศุสัตว์ พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจอาหารสัตว์และสมาคมภาคปศุสัตว์ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และได้ทำหนังสือสนับสนุนนโยบายดังกล่าว โดยไม่รับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่มาจากแปลงเผา ทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมขอเข้าพบหารือนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เพื่อร่วมหาแนวทางการดำเนินการร่วมกัน

สมาคมอาหารสัตว์-ปศุสัตว์ แก้ปัญหา PM2.5 เผาข้าวโพดเราไม่ซื้อทั้งใน-นอกประเทศ

“ปัจจุบันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศขาดแคลนอยู่ประมาณปีละ 4 ล้านตัน ทางออกในเรื่องนี้ ต้องขอให้รัฐบาลจัดหาวัตถุดิบส่วนขาดมาทดแทน ด้วยการเปิดให้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศที่สาม หรือปลดมาตรการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO ออก เพื่อให้สามารถนำเข้ามาเติมเต็มจำนวนที่ขาด ซึ่งเป็นประเทศห่างไกลและไม่ส่งผลกระทบกับการเกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดน แต่หากรัฐบาลยังคงมาตรการควบคุมการนำเข้าตามเดิม

 

ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถแก้ปัญหาการเผาแปลงได้อย่างเต็มที่ ยังอาจเกิดผลกระทบการต่อการผลิตอาหารสัตว์และภาคการเลี้ยงสัตว์ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และจะบานปลายถึงขั้นขาดความมั่นคงทางอาหารในสินค้าปศุสัตว์ และยังกระทบการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ที่มีมูลค่ากว่าปีละ 2 แสนล้านบาทได้”

สมาคมอาหารสัตว์-ปศุสัตว์ แก้ปัญหา PM2.5 เผาข้าวโพดเราไม่ซื้อทั้งใน-นอกประเทศ

ทั้งนี้ ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่จะใช้ได้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มีปริมาณลดลง เพราะต้องลดการซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มาจากการรุกป่าและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ผ่านการเผา การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลนี้ จะทำให้ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศหายไปประมาณ 5 แสนตัน เช่นเดียวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่มีหลักฐานแสดงว่าปลอดการเผาและรุกป่าจะไม่สามารถนำเข้ามาได้ มีปริมาณนำเข้าเฉลี่ยปีละ 1.5 ล้านตัน ก็จะหายไปด้วย เท่ากับว่า ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งระบบหายไปรวม 2 ล้านตันต่อปี

 

ซึ่งส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องทั้งซัพพลายเชน ทั้งอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ รวมถึงภาคการส่งออก อย่างเช่นไก่เนื้อ หากสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในตลาดมีจำนวนน้อย จะทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กระทบขีดความสามารถทางการแข่งขันที่ลดลง

สมาคมอาหารสัตว์-ปศุสัตว์ แก้ปัญหา PM2.5 เผาข้าวโพดเราไม่ซื้อทั้งใน-นอกประเทศ

นายพรศิลป์ กล่าวด้วยว่า การแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่เพียงตอบโจทย์การค้าโลกสมัยใหม่ที่เรียกร้องการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังส่งผลกับการพัฒนาการผลิตปศุสัตว์คาร์บอนต่ำ ที่นำไปสู่การแข่งขันระดับโลกได้อีกด้วย ซึ่งภาคธุรกิจอาหารสัตว์ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการผลิตวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เข้าสู่ระบบ “สีเขียว” มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสมาชิกของสมาคมฯส่วนหนึ่งได้ดำเนินการประกาศไม่รับซื้อผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีการเผาแปลงปลูกแล้ว