ซื้อตั๋วเข้าอุทยานด้วยระบบ E-Ticket เร่งใช้ 15 ต.ค. นี้ โปร่งใสทุกขั้นตอน

ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินอุทยานแห่งชาติ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการจัดเก็บและบริหารเงินรายได้ตามนโยบายสำคัญ
KEY
POINTS
- ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริ
วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำคณะผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติฯ ร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินอุทยานแห่งชาติ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณชนเกี่ยวกับระบบการจัดเก็บ
และบริหารเงินรายได้อุทยานแห่งชาติตามนโยบายสำคัญของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สั่งการให้เร่งขับเคลื่อนระบบ E-Ticket ทั้งระบบให้แล้วเสร็จและพร้อมใช้งานในฤดูกาลท่องเที่ยวหน้า ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการจัดเก็บรายได้
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการจัดเก็บรายได้อย่างโปร่งใส และนำเงินที่ได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่อุทยาน โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา ได้ออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการรายได้แบบดิจิทัลที่เรียกว่า “e-National Park” เพื่อยกระดับการจัดเก็บและบริหารเงินรายได้ให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และลดโอกาสในการสัมผัสเงินสดของเจ้าหน้าที่
ที่ผ่านมา กรมอุทยานฯ ใช้ระบบ E-Ticket อยู่แล้ว แต่ยังมีข้อจำกัดหลายประการ โดยเฉพาะการไม่ครอบคลุมทุกประเภทกิจกรรมและพื้นที่ จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาระบบให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ปัจจุบัน เราได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่อุทยานทางทะเล ให้ใช้ระบบ E-Ticket ในการจำหน่ายบัตรเข้าชม เพื่อไม่ให้มีการชำระเงินผ่านมือเจ้าหน้าที่โดยตรง
"อย่างไรก็ตาม ยังพบความเสี่ยงในบางจุด เช่น การกรอกข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง จำนวนผู้เข้าใช้บริการไม่ตรงกับรายงาน หรือการแยกแยะสัญชาติผู้เข้าอุทยานผิดพลาด ซึ่งเราได้จัดตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีรองอธิบดีที่กำกับดูแลด้านอุทยานเป็นประธาน และเชิญผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกเข้าร่วมตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในระดับพื้นที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆ ก็จะมีคณะทำงานเฉพาะในการลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นระยะ โดยผมได้กำชับให้เพิ่มความถี่และความเข้มงวดในการตรวจ เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของรายได้"
ระบบ e-National Park
ระบบ e-National Park ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่
- e-Ticket
ระบบจำหน่ายบัตรเข้าชมอุทยานในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีฐานข้อมูลการจองและการชำระเงินแบบเรียลไทม์
- ระบบบัญชีรายได้ (e-Payment)
เงินค่าธรรมเนียมทั้งหมดจะไม่ผ่านมือเจ้าหน้าที่ แต่จะถูกโอนเข้าคลังจังหวัดโดยตรงภายในวันเดียว และมีระบบแจ้งยอดแบบอัตโนมัติไปยังกรมอุทยานและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมเงินสดในพื้นที่
- ระบบอนุญาต (e-Permit)
ระบบบริหารจัดการการอนุญาตใช้พื้นที่ในอุทยาน เช่น การจองบ้านพัก การประกอบกิจกรรมพิเศษ การถ่ายทำภาพยนตร์ หรือการประกอบการในพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดจะต้องดำเนินการผ่านระบบ e-Permit เพื่อให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ทั้งสามระบบนี้กำลังอยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง โดยระบบ e-Payment ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วน e-Permit กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการดำเนินการ เมื่อทั้งระบบพร้อมใช้งาน 100% จะช่วยให้การบริหารจัดการรายได้ของกรมอุทยานฯ มีความโปร่งใสยิ่งขึ้น ตรงตามนโยบายของรัฐบาล และสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนได้อย่างแท้จริง
"วันที่ 15 ตุลาคมนี้ เรากำหนดเป็นวันเริ่มต้นฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเล ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มใช้ระบบ e-Ticket อย่างเต็มรูปแบบ โดยเราจะเริ่มใช้ที่ อุทยานแห่งชาติทางทะเลก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีรายได้สูงสุดและมีความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของรายได้มากที่สุด"
ทั้งนี้ ยังไม่สามารถครอบคลุมอุทยานทั่วประเทศได้ 100% ภายในวันนั้น เนื่องจากการติดตั้งระบบ e-Ticket จำเป็นต้องใช้งบประมาณสำหรับทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เช่น ท่าเทียบเรือลอยน้ำ, ทุ่นจอดเรือ, คีออส, กล้อง CCTV, ระบบ Face Detection และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการจัดซื้อจัดจ้างและติดตั้ง
แนวทางดำเนินการ
- จะเริ่มที่อุทยานทางทะเล และอุทยานขนาดใหญ่ เช่น เขาใหญ่ อินทนนท์ เอราวัณ เป็นต้น
- ระบบที่ติดตั้งแล้วจะใช้ e-Ticket 100% ไม่มีการซื้อบัตรกระดาษหรือจ่ายเงินสดอีกต่อไป นักท่องเที่ยวต้องซื้อผ่านระบบออนไลน์ หรือผ่านคีออส ณ จุดเข้าพื้นที่
- สำหรับอุทยานทางบก ซึ่งมีจุดเก็บค่าบริการชัดเจน มีระบบกล้องและประตูตรวจตั๋วอยู่แล้ว จึงมีการรั่วไหลน้อยและยังสามารถใช้ระบบเดิมได้ในระยะแรก
แนวโน้มและการสนับสนุนงบประมาณ
นายอรรถพล กล่าวด่วยว่า เชื่อว่าเมื่อเริ่มใช้ระบบในพื้นที่หลัก รายได้ที่จัดเก็บได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจะช่วยเพิ่มงบประมาณหมุนเวียน เพื่อนำกลับมาขยายระบบไปยังอุทยานอื่นๆ ต่อไป โดยในอนาคตอันใกล้ คาดว่าจะสามารถครอบคลุมได้ทั่วประเทศ ซึ่งเราอยู่ระหว่างการประสานขอรับงบประมาณบูรณาการเพิ่มเติมจากหน่วยงานอื่น เช่น สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อสนับสนุนโครงการนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว