กรมอุทยานฯ แจง ไม่เบียดบังงบ เพิ่มสวัสดิการเจ้าหน้าที่ 2568 สูงสุด 1 ล้านบาท

กรมอุทยานฯ แจง ไม่เบียดบังงบ เพิ่มสวัสดิการเจ้าหน้าที่ 2568 สูงสุด 1 ล้านบาท

กรมอุทยานฯมีสวัสดิการเจ้าหน้าที่ พร้อมปรับเงินช่วยเหลือเป็น 1 ล้านบาท กรมอุทยานฯมีสวัสดิการเจ้าหน้าที่ พร้อมปรับเงินช่วยเหลือเป็น 1 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • บุคลากรกรมอุทยานฯ ทั่วประเทศรวม

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกรมฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวผ่านช่องทางเฟซบุ๊กของกรมฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับระบบการจัดเก็บและบริหารจัดการรายได้ของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและโปร่งใสต่อสาธารณชน ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การแถลงข่าวในครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดสรรงบประมาณเพื่อสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะในกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ป่า ซึ่งปีนี้กรมอุทยานฯ ได้ตั้งงบประมาณช่วยเหลือไว้จำนวน 1.4 ล้านบาท และมีการเสนอปรับเพิ่มวงเงินความช่วยเหลือให้สอดคล้องกับความเสี่ยงและภารกิจที่เพิ่มขึ้น

บุคลากรทั่วประเทศ 18,533 คน

นายชิดชนก สุขมงคล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ มีบุคลากรที่ปฏิบัติงานดูแลพื้นที่อนุรักษ์ทั่วประเทศจำนวน 18,533 คน แบ่งเป็นข้าราชการ 534 คน ลูกจ้างประจำ 359 คน พนักงานราชการ 5,771 คน ลูกจ้างเหมาเดือน 75 คน บุคคลภายนอกที่ได้รับค่าตอบแทน 3,388 คน และพนักงานจ้างเหมาจำนวน 7,724 คน

ซึ่งหากบุคลากรเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จะได้รับความช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและกองทุนของกรมฯ รวมถึงการสนับสนุนจากองค์กรภาคีต่างๆ เช่น กองทุนสวัสดิการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, มูลนิธิสืบนาคะเสถียร, มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ, สมาคมอุทยานแห่งชาติ และภาคเอกชน เช่น บริษัท AIA และมูลนิธิ SCG ที่มอบทุนการศึกษาแก่บุตรของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต

กรอบการช่วยเหลือในกรณีต่างๆ ได้มีการปรับเพิ่มในปี 2568 จากยอดเดิมปี 2566 ได้แก่

1. กรณีบาดเจ็บ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ที่มีความเสี่ยงภัย จ่ายเงินช่วยเหลือได้ในอัตราไม่เกิน 1,000,000 บาท

1.1) บาดเจ็บจนถึงแก่ทุพพลภาพ หรือพิการ โดยมีเอกสารรับรองการรักษาพยาบาล

- อัมพาต : จากเดิม 300,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท

- สูญเสียแขน ขา หรือสายตา (ตาบอด) ทั้งสองข้าง รวมทั้งสองแห่ง : จากเดิม 300,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท

- สูญเสียแขน ขา หรือสายตา (ตาบอด) หนึ่งข้าง : จากเดิม 300,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 600,000 บาท

1.2) บาดเจ็บสาหัสโดยมีเอกสารรับรอง (ช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง/ไม่เกิน) : จากเดิม 150,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

1.3) บาดเจ็บโดยมีเอกสารรับรอง (ช่วยเหลือเท่าที่จ่ายจริง/ไม่เกิน) : จากเดิม 50,000 บาท เป็นสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

2) กรณีบาดเจ็บอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ทั่วไป จ่ายเงินช่วยเหลือได้ในอัตราไม่เกิน 1,000,000 บาท

2.1) เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จากการปะทะ ต่อสู้ ลาดตระเวนในพื้นที่ป่า หรือถูกสัตว์ป่าทำร้าย : จากเดิม 500,000 บาท ปรับเพิ่มเป็น 1,000,000 บาท

2.2) กรณีเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ นอกเหนือจากข้อ 2.1 : จากเดิม 400,000 บาท ปรับเป็น 500,000 บาท

กรมอุทยานฯ แจง ไม่เบียดบังงบ เพิ่มสวัสดิการเจ้าหน้าที่ 2568 สูงสุด 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโครงการประกันอุบัติเหตุกลุ่มโดยสมัครใจสำหรับนักท่องเที่ยว โดยกรมอุทยานฯ ร่วมกับบริษัทกรุงไทยพาณิชย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการในอุทยานแห่งชาติที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 71 แห่ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยแก่ผู้มาเยือน

รวมค่าประกันไว้ในค่าตั๋วอุทยาน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยือนอุทยานแห่งชาติสามารถเลือกซื้อประกันชีวิตได้โดยสมัครใจ แต่ขณะนี้กรมอุทยานฯ กำลังอยู่ในกระบวนการปรับปรุงประกาศและระเบียบ เพื่อให้สามารถรวมค่าประกันชีวิตนักท่องเที่ยวไว้ในค่าบริการหรือค่าตั๋วเข้าชมอุทยานได้เลย ซึ่งขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างรอเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ

สำหรับรายได้ที่จัดเก็บจากนักท่องเที่ยว จะถูกนำกลับไปพัฒนาระบบท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในอุทยาน รวมถึงโครงการพัฒนาอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ เช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพีพี, ดอยอินทนนท์, เขาใหญ่, สามร้อยยอด และเอราวัณ โดยอยู่ในขั้นตอนการออกแบบปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับมาตรฐานตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ไม่เบียดบังงบ

นายอรรถพลกล่าวด้วยว่า จากภาพรวมการใช้จ่ายงบประมาณ จะเห็นได้ว่า รายจ่ายของกรมอุทยานฯไม่น้อย จึงไม่มีเหตุผลใดที่กรมฯจะเบียดบังหรือใช้งบประมาณอย่างไม่เหมาะสม ยิ่งต้องจัดเก็บและใช้เงินรายได้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในส่วนของสวัสดิการเจ้าหน้าที่ กรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเดิมที่เราให้ความช่วยเหลือสูงสุด 500,000 บาท ในปีนี้ ได้มีการปรับเพิ่มเป็น 1,000,000 บาท เนื่องจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ให้ความสำคัญและเป็นห่วงสวัสดิการของเจ้าหน้าที่อย่างมาก ท่านจึงมีดำริให้ปรับเพิ่มเพดานวงเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นการให้เกียรติผู้ปฏิบัติงานอย่างแท้จริง

การใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดเป็นไปด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีเหตุผลใดที่จะเบียดบังงบประมาณหรือใช้อย่างไม่เหมาะสม พร้อมเผยแผนจัดสรรงบเพิ่มเติมอีกประมาณ 260 ล้านบาท สำหรับการจัดซื้ออาวุธปืน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยในการลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง และปกป้องชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในแนวหน้า

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยของผู้บริหารระดับสูง โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรี ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ต้องการยกระดับสวัสดิการเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงและเป็นการให้เกียรติแก่ผู้เสียสละเพื่อผืนป่าของประเทศ