ตลาดหุ้นทั่วเอเชียร่วงหนัก หลัง 'อิสราเอล' เปิดฉากถล่มคืน 'อิหร่าน'
ตลาดหุ้นทั่วเอเชียปรับตัวลงถ้วนหน้า 'ญี่ปุ่น' ร่วงหนัก 1,300 จุดระหว่างซื้อขาย ทั้งภูมิภาคร่วงแล้วกว่า 5% และเป็นรอบสัปดาห์ที่แย่ที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หลังเจอความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ทั้งสัปดาห์ บวกปัจจัยกังวลเฟดคงดอกเบี้ยยาว
ตลาดหุ้นทั่วเอเชีย ปรับตัวลดลงแรงในวันนี้ (19 เม.ย.) ภายหลังมีรายงาน "อิสราเอลเข้าโจมตีอิหร่าน" เมื่อช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งสร้างความวิตกให้นักลงทุนว่าอาจกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบตามมา หลังจากที่อิหร่านเข้าโจมตีอิสราเอลด้วยการยิงขีปนาวุธและโดรนเข้าถล่มกว่า 300 ลูก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา
ดัชนีนิกเกอิ 225 ตลาดหุ้นโตเกียว ซึ่งเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 37,724.47 จุด หรือ 0.93% จากราคาปิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ปรับตัวลงหนักที่สุดในภูมิภาคระหว่างการซื้อขายเช้านี้ โดยระหว่างการซื้อขายลดลงไปกว่า 1,300 จุด หรือกว่า 3% แตะระดับ 36,733.06 จุด ระหว่างการซื้อขาย ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 2.25%
นอกจากปัจจัยตะวันออกกลางแล้ว ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ยังมีแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เช่น หุ้นอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์บริษัท Lasertec ที่ดิ่งลงถึง 7.5% นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีการรายงานเงินเฟ้อเดือน มี.ค.ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 2.7% จาก 2.8% ในเดือน ก.พ.
ทางด้าน ดัชนีฮั่งเส็งตลาดฮ่องกง ระหว่างการซื้อขายร่วงลง 201.85 จุด หรือ 1.23% อยู่ที่ 16,184.02 จุด เมื่อเวลาประมาณ 11.45 น. และ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ลดลงเล็กน้อย 12.23 จุด หรือ 0.40% อยู่ที่ 3,062.00 จุด
ขณะที่ ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 47.67 จุด หรือ 1.81% ระหว่างการซื้อขาย ลงมาแตะ 2,587.03 จุด
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียปรับตัวลดลงถึงกว่า 5% ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากรับแรงกดดันภูมิรัฐศาสตร์จากอิหร่านโจมตีอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามมาด้วยความกังวลที่ประธานเฟดส่งสัญญาณอาจคงดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดเพราะเงินเฟ้อสูงเกินคาด และล่าสุดกับกรณีที่อิสราเอลโจมตีกลับอิหร่านในวันศุกร์นี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียมีผลประกอบการรอบสัปดาห์แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2565