'ญี่ปุ่น' ลั่นพร้อมแทรกแซงค่าเงินเยนตลอด 24 ชม. หลังใกล้แตะ 160

'ญี่ปุ่น' ลั่นพร้อมแทรกแซงค่าเงินเยนตลอด 24 ชม. หลังใกล้แตะ 160

รมช.คลังญี่ปุ่นเตือนจริงจัง พร้อมแทรกแซงค่าเงินเยนแบบ "24 ชั่วโมงต่อวัน" หากจำเป็น หลังเงินเยนอ่อนค่าหนักใกล้ไปทดสอบระดับ 160 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้าง มาซาโตะ คันดะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นในวันนี้ (24 มิ.ย.) ว่า ญี่ปุ่นพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน หากมีความจำเป็น หลังจากที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างหนักตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.01 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ค่าเงินเยนร่วงลงต่อเนื่องอีก 0.1% มาอยู่ที่ 159.91 เยนต่อดอลลาร์ หรือใกล้แตะจุดทดสอบ 160 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนเคยร่วงหนักถึง 160.17 เยนต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ซึ่งเป็นระดับที่เชื่อกันว่าส่งผลให้ทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงค่าเงินตามมา    

"หากมีความผันผวนของค่าเงินมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ" คันดะกล่าว "ในกรณีที่มีการเคลื่อนไหวมากเกินไปเนื่องจากการเก็งกำไร เราก็พร้อมที่จะดำเนินการตามความเหมาะสม"

ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นยอมรับว่ามีการเข้าแทรกแซงค่าเงินในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนช่วงระยะเวลา 1 เดือน ระหว่างวันที่ 26 เม.ย. - 29 พ.ค. โดยใช้เงินไปถึง 9.6 ล้านล้านเยน (ราว 2.25 ล้านล้านบาท) ในการแทรกแซงค่าเงินเยน 

ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนว่าจะมีการแทรกแซงค่าเงินรอบใหม่อีกครั้งเมื่อใด แต่จากการแทรกแซงค่าเงิน 2 ครั้งใหญ่ๆ ที่ผ่านมาในวันที่ 29 เม.ย. และ 1 พ.ค. พบว่าญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณเตือนที่ชัดเจนแนวนี้ทุกครั้งก่อนที่จะดำเนินการตามมา ในขณะที่ข้อมูลทุนสำรองระหว่างประเทศของญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า ทางการญี่ปุ่นอาจเทขายพันธบัตรสหรัฐเพื่อพยุงค่าเงินเยน 

คันดะระบุด้วยว่า รัฐบาลทั่วโลกมีการติดต่อพูดคัยกันทุกวันเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงเรื่องสกุลเงินด้วย และย้ำว่ารัฐบาลสหรัฐไม่ได้มีปัญหากับการแทรกแซงค่าเงินของญี่ปุ่น เพราะ "สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือความโปร่งใส" พร้อมยืนยันว่าการที่สหรัฐขึ้นบัญชีญี่ปุ่นเป็นสถานะที่ต้อง "จับตามอง" นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยุทธศาสตร์ค่าเงินของญี่ปุ่น

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐได้ขึ้นบัญชีญี่ปุ่นเป็นสถานะ "Watchlist" ในข่ายประเทศคู่ค้าที่มีการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนในระดับที่ต้องจับตามอง แต่ยังไม่ถึงขั้นขึ้นบัญชีเป็นประเทศปั่นค่าเงิน (currency manipulation)

โดยปกติแล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยรายงานประเทศปั่นค่าเงินเป็นประจำทุกปี เพื่อตรวจสอบประเทศคู่ค้าที่มียอดการค้าเกินดุลกับสหรัฐมาก และอาจใช้การแทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า โดยสหรัฐจะใช้หลักเกณฑ์ 3 ด้าน และหากเข้าข่าย 2 ใน 3 จะถูกขึ้นบัญชี Watchlist ประเทศที่ต้องจับตามอง ซึ่งไทยก็เคยอยู่ในบัญชีนี้มาก่อน สำหรับหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้แก่

  1. เกินดุลการค้ากับสหรัฐสูงกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์  
  2. ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงกว่า 2% ของจีดีพี  
  3. แทรกแซงค่าเงินโดยวัดจากการเข้าซื้อตราสารเงินตราต่างประเทศรวมกันมากกว่า 2% ของจีดีพี ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง