นิวซีแลนด์ 'ลดดอกเบี้ย' ครั้งแรกรอบ 4 ปี ส่งสัญญาณลดอีกตามดอกเบี้ยโลกขาลง
แบงก์ชาตินิวซีแลนด์ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี พร้อมส่งสัญญาณอาจลดต่อรอบสอง ท่ามกลางทิศทางดอกเบี้ยโลกขาลง
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานในวันนี้ (14 ส.ค.) ว่า ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ลงมาอยู่ที่ระดับ 5.25% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2563
การลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดลงทันที 0.7% อยู่ที่ 0.6032 ดอลลาร์ต่อดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางสัญญาณจากแบงก์ชาตินิวซีแลนด์ว่าอาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีกในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังจากที่สามารถคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมายได้แล้ว
"การผ่อนปรนเพิ่มเติมจะขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของคณะกรรมการนโยบายการเงินว่า พฤติกรรมด้านราคาจะยังคงสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และแนวโน้มเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับเป้าหมายประมาณ 2% ได้หรือไม่" รายงานของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ระบุ
นิค ทัฟลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ธนาคาร ASB คาดการณ์ว่า แบงก์ชาตินิวซีแลนด์จะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งละ 0.25% ในการประชุมที่เหลืออีกหลายครั้งในปีนี้ และหากแรงกดดันเงินเฟ้อลดลงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ ก็มีโอกาสที่จะได้เห็นอัตราดอกเบี้ยลดลงมาแตะระดับ 3.25% หรือเท่ากับว่าจะลดลงอีกถึง 2% จากอัตราปัจจุบัน
ทั้งนี้ RBNZ นับเป็นแบงก์ชาติรายล่าสุดที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ก่อนหน้าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นอย่างต่ำ ในการประชุมเดือน ก.ย. นี้
ก่อนหน้านี้ มีธนาคารกลางในหลายประเทศทั่วโลกที่ทยอยประกาศลดดอกเบี้ยกันไปแล้วโดยไม่รอเฟด อาทิ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ธนาคารกลางแคนาดา สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ECB มีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% ไปอยู่ที่ระดับ 3.75% ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งเป็นเรื่องไม่บ่อยนักที่อีซีบีจะชิงลดดอกเบี้ยก่อนโดยไม่รอผลการประชุมเฟด ในขณะที่ BoE มีมติลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5% เมื่อวันที่ 1 ส.ค. โดยเป็นการลดดอกเบี้ยลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปีของอังกฤษ และเฉือนชนะกันอย่างเฉียดฉิวด้วยมติ 5 ต่อ 4 ท่ามกลางแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงในหลายประเทศทั่วโลก