ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดลดลง 32.70 ดอลลาร์ รับดอลลาร์แข็งค่า-บอนด์ยีลด์พุ่ง

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดลดลง 32.70 ดอลลาร์ รับดอลลาร์แข็งค่า-บอนด์ยีลด์พุ่ง

ราคาทองฟิวเจอร์ ร่วงลง 1.3% รับดอลลาร์แข็งค่า-บอนด์ยีลด์พุ่งขึ้น ตลอดทั้งเดือน ส.ค. ราคาทอง บวกได้ 2% และทำสถิติสูงสุดนิวไฮในเดือนนี้

ราคาทองฟิวเจอร์ สัญญา ทองคำ ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบในวันศุกร์ที่ 30 ส.ค. เนื่องจากดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่ ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นได้ในเดือนส.ค. เนื่องจากยังมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.

  • สัญญา ทองคำ ตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 32.70 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 2,527.60 ดอลลาร์/ออนซ์ 
  • ขณะที่ ราคาทองสปอต (Spot gold) เวลาประมาณ 00.42 น. ลดลง 0.9% หลุด 2,500 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 2,497.53 ดอลลาร์/ออนซ์ 

ตลอดทั้งเดือนสิงหาคมราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% และขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2,531.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 101.699

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบรรดานักเศรษฐศาสตร์

อเล็กซ์ เอ็บคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Allegiance Gold กล่าวว่า ข้อมูล PCE ยืนยันว่า เงินเฟ้อไม่ใช่ความกังวลหลักของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกต่อไป ขณะที่พวกเขาหันไปให้ความสำคัญกับการว่างงานแทน ซึ่งจะสนับสนุนความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.

หลังจากการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อในวันศุกร์ เครื่องมือ FedWatch tool ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. และมีโอกาสลดลงเหลือ 31% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50%

บรรดานักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์หน้า