วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ภาคการผลิตเดือน ส.ค. ของ US
ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Sideways Down แนวรับ 1,349 จุด/1,345 จุด (EMA 10 วันและ 25 สัปดาห์) แนวต้าน 1,360 จุด/1,366 จุด ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,274-1,438 จุด
และอยู่ระหว่างการปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 2/3 ของกรอบ Fibonanci ที่ 1,375 จุด และเป้าหมายหลักที่ 1,438 จุด ส่วนระยะสั้นอยู่ในทิศทางของการปรับฐานเพื่อขึ้นต่อ (ทำ Lower High และ Lower Low ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3) โดยจุดรีบาวนด์คาดอยู่ที่บริเวณ 1,336-1,345 จุด แนะนำ ซื้อสะสมที่แนวรับ
ประเด็น Event สำคัญวันนี้
Holiday: ตลาดหุ้นเวียดนามปิดทำการ (วันชาติ)
Opp day: B-WORK NEO PACO PRM TNP D TRU PRIME GUNKUL NVD HTC FN PYLON TPAC CPANEL PORT ACE BC ONEE
Ex-Dividend Effect: การประกาศขึ้นเครื่องหมาย XD ของบจ. วันนี้ คาดว่าจะมีผลกระทบเชิงลบต่อดัชนีฯ ประมาณ -0.15 จุด สำหรับบจ. เด่น ๆ ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ ได้แก่ MINT BSRC ฯลฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ
- US: รายงานภาคการผลิตเดือน ส.ค. ISM คาดยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แต่ปรับดีขึ้น MoM เป็น 47.5 (Vs เดือน ก.ค. 46.8) เป็นผลจาก New Orders ดีขึ้นเป็น 47.6 (Vs เดือน ก.ค. 47.4) การจ้างงานดีขึ้นเป็น 43.6 (Vs เดือน ก.ค. 43.4) ทั้งนี้ Trading Economic คาดปรับตัวดีขึ้นและเข้าสู่ภาวะขยายตัว (>50) ในเดือน ก.ย. 2024 หลังจากเข้าสู่ภาวะหดตัว (<50) นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2024 เป็นต้นมา ทำให้โอกาสที่เฟดปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps มีความเป็นไปได้สูงขึ้น ส่วน S&P Global คาดลดลงเป็น 48 (Vs เดือน ก.ค. 49.6) และ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะขยายตัว (>50) ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2024 เป็นต้นไป
- TH การประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท วาระ 2 และวาระ 3 ในวันที่ 3-5 ก.ย. (เริ่มต้นวันนี้) โดย มี สส. ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านขอแปรญัตติรวม 158 คน ดังนั้นจึงกำหนดเวลาการพิจารณาเบื้องต้น คือ วันที่ 3-4 ก.ย. เริ่มประชุม 09.00-22.00 น. ส่วนวันที่ 5 ก.ย. เริ่มประชุม 09.00 น. และจะลงมติวาระสามว่าจะเห็นชอบทั้งฉบับหรือไม่ เวลา 21.00 น. รวมเวลาที่ใช้ในการพิจารณาประมาณ 38 ชั่วโมง
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นที่มีประเด็นบวก ได้แก่ BCP OSP KTB
Strategic daily picks
BCP ปิด 36.25 บาท/แนวรับ 35.00 บาท แนวต้าน 38.50 บาท
กำไรปกติ และกำไรสุทธิงวด 1H24 คิดเป็นสัดส่วน 41% และ 47% ของประมาณการทั้งปี และคาดโมเมนตัมผลการดำเนินงานปกติจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H24E จากค่าการกลั่นที่ฟื้นตัว และการเดินเครื่องการผลิตของโรงกลั่นเต็มที่ ซึ่ง KTX คงกำไรปกติ และกำไรสุทธิปี 2024E ที่ 8.5 พันล้านบาท (-4% YoY) และ 9.2 พันล้านบาท (-31% YoY) ตามลำดับ โดย KTX ประเมินมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 43.15 บาท
OSP ปิด 20.90 บาท/แนวรับ 20.20 บาท แนวต้าน 21.50 บาท
บริษัททุ่มงบลงทุนเกือบ 1 พันล้านบาท เพื่อขยายฐานการผลิตไลน์กระป๋องใหม่ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมสูงถึงกว่า 300 ล้านกระป๋อง/ปี สำหรับรองรับการผลิตเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศที่บรรจุกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “เอ็ม-150 (มิโซ)” “ชาร์ค” “คาลฟิสแลคโตะ” และสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น รวมถึงเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการและเสริมศักยภาพการผลิตให้ครบวงจร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 4Q25 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 740 ล้านบาท (+15.24% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 28.34 บาท
KTB ปิด 18.30 บาท/แนวรับ 17.80 บาท แนวต้าน 18.90 บาท
KTB เผยปี 2024 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 3% แม้ 1H24 ยังหดตัว 0.7% จาก 1H23 จากการชาระคืนหนี้สินเชื่อภาครัฐและภาคธุรกิจ ขนาดใหญ่ แต่คาด 2H24 การเร่งใช้จ่ายงบภาครัฐจะทำให้เกิดความต้องการสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ และมีโอกาสจะเข้าไป bid แข่งในสินเชื่อภาครัฐมากขึ้นด้วย พร้อมตั้งเป้า NIM ที่ระดับ 3.0-3.3% (1H24=3.35%) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท (+0.98% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 20.67 บาท