Nasdaq และ S&P500 ปิดบวกขานรับหุ้น 'เทสลา' จับตาต่อที่ 'อินวิเดีย'
ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวกรับหุ้น 'เทสลา' พุ่งแรงกว่า 5% จากข่าวการผ่อนคลายรถยนต์ไร้คนขับ และคาดผลประกอบการ 'อินวิเดีย' จะออกมาแข็งแกร่งในวันพุธ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (18 พ.ย.) แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวก ขานรับการคาดการณ์ว่าผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) และเทสลา (Tesla) จะออกมาแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,389.60 จุด ลดลง 55.39 จุด หรือ -0.13%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,893.62 จุด เพิ่มขึ้น 23.00 จุด หรือ +0.39%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,791.81 จุด เพิ่มขึ้น 111.69 จุด หรือ +0.60%
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.05% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งขึ้น 1.04% ส่วนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.17%
นักลงทุนจับตาผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รายใหญ่ของสหรัฐในวันพุธที่ 20 พ.ย. เพื่อประเมินอุปสงค์ชิปแบล็คเวลล์ (Blackwell) ซึ่งเป็นชิปเอไอรุ่นใหม่ของบริษัท ขณะที่นักวิเคราะห์จากแบงก์ออฟอเมริกา โกลบอล รีเสิร์ช คาดการณ์ว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) ในไตรมาส 3 ของอินวิเดียจะพุ่งขึ้นเกือบ 25%
อย่างไรก็ดี หุ้นอินวิเดียปิดตลาดปรับตัวลง 1.3% หลังจากดิ อินฟอร์เมชัน (The Information) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีรายงานว่า ชิปแบล็คเวลล์ของอินวิเดียเกิดปัญหาความร้อนสูงเกินไปเมื่อนำมาเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
หุ้นเทสลา (Tesla) พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า คณะถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์มีแผนที่จะผ่อนคลายกฎระเบียบควบคุมรถยนต์ไร้คนขับ และผลักดันให้การกำหนดกรอบควบคุมรถยนต์ไร้คนขับเป็นประเด็นเร่งด่วนที่สุดสำหรับกระทรวงคมนาคมสหรัฐ โดยการผลักดันเรื่องดังกล่าวถือเป็นประโยชน์สำหรับเทสลา ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพยายามพัฒนารถยนต์ไร้คนขับแบบสมบูรณ์ (FSD) เป็นเวลาหลายปี แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในการสร้างรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีคนขับอยู่หลังพวงมาลัย
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆ ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ดีดตัวขึ้น 1.3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) พุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 3%
นักลงทุนรอดูผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงวอลมาร์ท (Walmart), โลว์ส (Lowe's) และทาร์เก็ต (Target) เพื่อประเมินแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภคในขณะที่ฤดูการชอปปิงช่วงเทศกาลกำลังใกล้เข้ามา
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 3 จุด สู่ระดับ 46 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 42 โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ยอดขายที่เพิ่มขึ้น และความหวังที่ว่ารัฐบาลของทรัมป์จะดำเนินการผ่อนคลายกฎระเบียบในตลาดที่อยู่อาศัย
ส่วนข้อมูลด้านอื่นๆ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.จาก S&P Global และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน