บิตคอยน์ทุบสถิติใหม่ 106,000 ดอลลาร์ รับไอเดียทรัมป์ 'กองทุนสำรองบิตคอยน์'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ราคาบิตคอยน์สร้างสถิติใหม่อีกครั้งที่ 106,533 ดอลลาร์/BTC ระหว่างการซื้อขายในเอเชียเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (16 ธ.ค.) ก่อนจะลดลงมาเคลื่อนไหวที่ 105,688 ดอลลาร์/BTC โดยได้แรงหนุนหลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยข้อเสนอว่าจะตั้ง "กองทุนสำรองบิตคอยน์ทางยุทธศาสตร์" (Bitcoin Strategic Reserve Rund)" ขึ้นมาในสหรัฐ คล้ายกับรูปแบบของกองทุนยุทศาสตร์น้ำมันสำรอง   

"เราจะทำบางอย่างที่ยอดเยี่ยมกับคริปโทเคอร์เรนซี เพราะเราไม่ต้องการจีนหรือใครก็ตาม...แต่คนอื่นกำลังยอมรับมัน เราจึงต้องขึ้นไปนำหน้าในเรื่องนี้" ทรัมป์กล่าวกับซีเอ็นบีซีช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

"ใช่ ผมคิดว่าอย่างนั้น" ทรัมป์ยอมรับว่ากำลังพิจารณาอยู่ เมื่อถูกถามว่าสหรัฐกำลังจะสร้างกองทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์บิตคอยน์ ที่คล้ายกับกองทุนสำรองน้ำมันหรือไม่

โทนี ไซคามอร์ นักกลยุทธ์จากบริษัทไอจี กล่าวว่า สถานการณ์ของคริปโทฯ กำลังฟุ้ง ตลาดอาจมองไปถึงราคา 110,000 ดอลลาร์/BTC เป็นราคาเป้าหมายต่อไป และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะเจอแรงฉุดจนย่อตัวลงมา เพราะตลาดกำลังรับข่าวนี้อยู่

ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์พุ่งทำสถิติสูงสุดไว้ที่ระดับ 103,332.30 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. และขึ้นแท่นเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดราว 2 ล้านล้านดอลลาร์

ผู้เชี่ยวชาญบางรายตั้งเป้าราคาบิตคอยน์ว่าจะสูงถึง 200,000 ดอลลาร์ในปีหน้า 2025 โดยมองว่าชัยชนะของทรัมป์ และการที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะทำให้ทรัมป์สามารถผลักดันการผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งการทำให้สหรัฐเป็นเมืองหลวงของคริปโทฯ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ได้เสนอชื่อพอล แอตกินส์ เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ซึ่งเป็นที่คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี

ทั้งนี้ ประเทศอื่นๆ มีการพิจารณาใช้ทุนสำรองเชิงยุทธศาสตร์ในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัลเช่นกัน

ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้กล่าวเมื่อต้นเดือนนี้โดยตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการถือดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองระหว่างประเทศ และกล่าวว่าทุนสำรองที่ใช้คริปโทฯ น่าดึงดูดใจมากกว่า

ปูตินกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันกำลังบั่นทอนบทบาทของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองในเศรษฐกิจโลก โดยใช้เงินดอลลาร์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง ส่งผลให้หลายประเทศหันไปใช้สินทรัพย์ทางเลือก รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลแทน

“ตัวอย่างเช่น บิตคอยน์ ใครจะสามารถห้ามได้ ไม่มีเลย” ปูตินกล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหลายฝ่ายที่ยังคลางแคลงใจต่อคริปโทเคอร์เรนซี โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวล เปรียบเทียบบิตคอยน์กับทองคำเมื่อต้นเดือนนี้ และชี้ถึงจุดอ่อนของบิตคอยน์ในเรื่องความผันผวนหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 

“ผู้คนไม่ได้ใช้บิตคอยน์เป็นรูปแบบการชำระเงินหรือเป็นที่เก็บมูลค่าทรัพย์สิน บิตคอยน์มีความผันผวนสูง ไม่ใช่คู่แข่งของดอลลาร์” พาวเวลกล่าว