ราคาทองคำร่วงลง ตลาดรอปัจจัยใหม่กระตุ้น

ราคาทองคำร่วงลง ตลาดรอปัจจัยใหม่กระตุ้น

ราคาทองคำย่อลง 0.6% นักลงทุนรอปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีหน้า

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ราคาทองคำ ย่อตัวลงในวันจันทร์ (30 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยปัจจัยกระตุ้นใหม่ๆ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปี 2025 รวมถึงนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คนใหม่

ราคาทองคำตลาดโลก (Spot Gold) ลดลง 0.6% เหลือ 2,603.53 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วน ราคาทองคำ ล่วงหน้า (Gold Futures) ในสหรัฐลดลง 0.6% อยู่ที่ 2,616.4 ดอลลาร์

“ผมคิดว่ามันเป็นแค่การซื้อขายที่เบาบางในช่วงวันหยุด บางทีอาจมีการปรับลดงบดุลก่อนสิ้นปี” ปีเตอร์ แกรนท์ รองประธานและนักกลยุทธ์โลหะอาวุโสของบริษัทนายหน้าค้าโลหะมีค่า Zaner Metals กล่าว

แกรนท์กล่าวเสริมว่า คาดว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จะยังคงสูงไปจนถึงปีหน้า โดยธนาคารกลางต่างๆ ยังคงซื้อทองคำต่อไป ในขณะที่สถานการณ์หนี้สินของสหรัฐน่าจะแย่ลง และการขาดดุลจะเพิ่มขึ้นภายใต้การบริหารของทรัมป์ ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำ พุ่งขึ้นเกือบ 27% ในปีนี้ โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,790.15 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม เนื่องจากนักลงทุนซื้อทองคำท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

ตลาดคาดการณ์คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลักของสหรัฐ ในปี 2025 รวมถึงภาษีศุลกากร การยกเลิกกฎระเบียบ และการเปลี่ยนแปลงภาษี ในขณะที่ทรัมป์เตรียมเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม

เมื่อต้นเดือนนี้ ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าจะมีการระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 % ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด

ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวนมากที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ตัวเลขตำแหน่งงานว่าง รายงานการจ้างงานของ ADP รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดประจำเดือนธันวาคม และรายงานการจ้างงานของสหรัฐ ซึ่งจะวัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ

ทองคำแท่ง ถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความวุ่นวาย แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้การถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยลดน้อยลง

ราคาโลหะเงิน ในตลาดโลกลดลง 1.5% อยู่ที่ 28.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาแพลตตินัม ลดลง 1.5% อยู่ที่ 905.70 ดอลลาร์ หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนเมื่อวันศุกร์

ราคาแพลเลเดียม ลดลง 1.1% อยู่ที่ 901.22 ดอลลาร์