‘โกลด์แมน’ เลื่อนเวลาเป้าราคาทอง! คาดแตะ 1 แสนบาทกลางปี 69 แทน
‘โกลด์แมน แซคส์’ เลื่อนกรอบเวลาเป้าหมายทองคำ! คาดราคาทองจะแตะ 100,000 บาทต่อออนซ์ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม เป็นแตะในช่วง ‘กลางปี 2569’ แทน สาเหตุหลักมาจากการปรับนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “โกลด์แมน แซคส์” วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐได้ “เลื่อนกรอบเวลา” การคาดการณ์ราคาทองคำลง โดยไม่คาดว่าราคาทองจะแตะ 3,000 ดอลลาร์หรือราว 100,000 บาทต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้แล้ว แต่คาดว่าราคาทองคำจะไปถึงระดับดังกล่าวใน “ช่วงกลางปี 2569” แทน
เหตุผลการปรับลดครั้งนี้เกิดจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม
ในปี 2568 การผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ช้าลง มีแนวโน้มที่จะกดดันความต้องการทองคำในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) อีกทั้งกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม ซึ่งเกิดจากความไม่แน่นอนที่ลดลงหลังการเลือกตั้งสหรัฐ ก็มีส่วนทำให้จุดเริ่มต้นของการกำหนดราคาในปีใหม่ลดลงด้วย
เหล่านักวิเคราะห์มองว่า เกิดแรงผลักดันราคาทองที่ขัดแย้งกัน ได้แก่ ความต้องการจากการเก็งกำไรที่ลดลง และการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การซื้อทองคำของธนาคารกลางยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหลักในระยะยาว โดยคาดการณ์ว่าการซื้อทองคำรายเดือนจะเฉลี่ย 38 ตัน จนถึงกลางปี 2569
ในปีที่ผ่านมา ทองคำพุ่งขึ้น 27% ซึ่งเป็นการพุ่งทำลายสถิติ โดยได้รับแรงหนุนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของสหรัฐ ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย และการซื้ออย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นดังกล่าวหยุดชะงักในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา เนื่องจากชัยชนะในการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ขณะเดียวกัน ในช่วงไม่นานมานี้ ทองคำก็เผชิญแรงกดดัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของเฟดได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้วิธีที่ระมัดระวังมากขึ้นในการลดต้นทุนการกู้ยืมในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อที่อาจกลับมาอีกครั้ง
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยจะลดลง 75 จุดพื้นฐานในปีนี้ โดยลดลงจากประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 100 จุดพื้นฐาน การคาดการณ์ดังกล่าวมีความเป็นไปได้มากกว่าการกำหนดราคาในตลาดปัจจุบัน เนื่องจากธนาคารมองว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มลดลง ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ก็แสดงความไม่แน่ใจว่า นโยบายที่อาจเปลี่ยนแปลงภายใต้การบริหารของทรัมป์ครั้งที่สองจะนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์