ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำ ดอลลาร์อ่อนค่าหนุน

ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย หลังเงินเฟ้อสหรัฐต่ำ ดอลลาร์อ่อนค่าหนุน

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันอังคาร หลังเงินเฟ้อภาคค้าส่งของสหรัฐ ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ทำให้นักลงทุนมีความหวังเพิ่มขึ้นบ้างว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนรอเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐ

รอยเตอร์สรายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันอังคาร (14 ม.ค.) ว่า  ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันอังคาร หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อค้าส่งของสหรัฐ ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะยังคงเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง

ราคาทองคำในตลาดซื้อขายทันที (Spot Gold) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 2,671.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 13.50 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (18.50 GMT) ส่วนราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures)  เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 2,682.30 ดอลลาร์

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบรายปีในเดือนธันวาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์สำรวจโดยรอยเตอร์สคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.4%

"ข้อมูล PPI ที่ลดลงส่งผลกระทบต่อดัชนีดอลลาร์สหรัฐ และช่วยให้ตลาดโลหะมีค่ามีทิศทางขาขึ้น เนื่องจากเงินเฟ้อที่ลดลงหมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น" จิม ไวคอฟฟ์ นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Kitco Metals ซึ่งเป็นบริษัทผู้ค้าโลหะมีค่า กล่าว 

ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ร่วงลง 0.6% ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ

ขณะนี้ นักลงทุนกำลังรอดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธ เพื่อวิเคราะห์แนวทางนโยบายของเฟด โดยผลสำรวจของรอยเตอร์สคาดการณ์ว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้น 2.9% ต่อปี เทียบกับ 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน และจะเพิ่มขึ้น 0.3% ต่อเดือน

ฟิลลิป สไตรเบิล หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของโบรกเกอร์ Blue Line Futures กล่าวว่า "เราจะต้องเห็นความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในเรื่องเงินเฟ้อ เพื่อให้เกิดความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง"

ข้อมูลที่รวบรวมโดยแพลตฟอร์มการเงิน LSEG แสดงให้เห็นว่าในปัจจุบัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 29.4 เบซิสพอยท์ภายในสิ้นปี

ทองคำแท่งถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้สินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยชนิดนี้ลดความน่าสนใจลง

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาที่ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคม และให้คำมั่นว่าจะขึ้นภาษีการค้า นักวิเคราะห์คาดว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดสงครามการค้าและทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้ออีกครั้ง

ธนาคาร UBS ระบุว่า ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่สูงขึ้นน่าจะยังคงเป็นปัจจัยลบต่อทองคำในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่จะถูกชดเชยด้วยความต้องการทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ช่วยกระจายความเสี่ยงซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ

ด้านราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 29.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมลดลง 1.8% อยู่ที่ 936.55 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมลดลง 0.3% อยู่ที่ 935.50 ดอลลาร์