ภาษีทรัมป์ดันตลาดแห่เทขายพันธบัตร ดันบอนด์ยีลด์ทั่วโลกพุ่ง

ตลาดแห่เทขายพันธบัตรระยะยาวสหรัฐ เน้นกอดเงินสด หลังภาษีของทรัมป์มีผลวันนี้ ดันบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งทะลุ 5% บอนด์ยีลด์ทั่วโลกพุ่งตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตลาดพันธบัตรสหรัฐกำลังถูกเทขายหนักขึ้นในวันนี้ (9 เม.ย.68) นับเป็นสัญญาณว่า นักลงทุนกำลังแห่เทขายแม้กระทั่งสินทรัพย์ปลอดภัยที่สุดในโลก ท่ามกลางความปั่นป่วนอย่างหนักของตลาดทุนทั่วโลกจากผลกระทบภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้
ภาษีศุลกากรของทรัมป์กำลังทำให้ทิศทางการลงทุนเปลี่ยนไปสู่ "การบังคับขายถือเงินสดเพื่อความปลอดภัย" ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของสินทรัพย์ปลอดภัยของโลกเริ่มไม่มั่นคงเหมือนเดิม ขณะที่พันธบัตรระยะยาวกำลังถูกเทขายอย่างหนักจากบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์เพื่อเสริมสภาพคล่อง
“ตอนนี้เรื่องนี้อยู่เหนือปัจจัยพื้นฐานแล้ว เป็นเรื่องของสภาพคล่องเป็นหลัก” แจ็ค แชมเบอร์ส นักกลยุทธ์อัตราดอกเบี้ยอาวุโสของธนาคาร ANZ ในซิดนีย์ กล่าว
บลูมเบิร์ก ระบุว่านักลงทุนกำลังแห่เทขายพันธบัตรของสหรัฐ โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ของสหรัฐพุ่งทะยานมากถึง 0.25% ไปแตะระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2023 รวมแล้วทั้งสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 0.50% และยิ่งกระตุ้นให้บอนด์ยีลด์ทั่วโลกพุ่งสูงปั่นป่วนตามไปด้วย
ด้านรอยเตอร์ส ระบุว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐปรับตัวขึ้น 0.20% ในเอเชียวันนี้ ไปแตะ 4.46% และหากนับจากเมื่อวันจันทร์บอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้นไปแล้วถึง 0.60%
ส่วนบอนด์ยีลด์ 30 ปี ปรับตัวขึ้น 0.60% ตลอดสามวันมานี้ไปทะลุ 5% แล้ว และหากยังมีการเทขายต่อเนื่องอีกก็อาจกลายเป็นการเทขายที่หนักที่สุดในรอบ 44 ปี นับตั้งแต่ปี 1981 เป็นต้นมา
การเทขายพันธบัตรอายุยาวของสหรัฐยังนำไปสู่การเทขายในตลาดพันธบัตรประเทศอื่นๆ ทั่วโลกด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และญี่ปุ่น พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย และทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยของพันธบัตรสหรัฐ
จับตาต่างชาติเทขายตอบโต้สหรัฐ
การที่นักลงทุนหันไปหาตราสารที่มีลักษณะเหมือนเงินสด ความปั่นป่วนในตลาดสวอปของสหรัฐ และการที่อาจมีบางประเทศเทขายพันธบัตรสหรัฐมากขึ้น ก็ถือเป็นเหตุผลเบื้องหลังของราคาพันธบัตรที่ลดลงเช่นกัน
“นี่คือการยอมขายขาดทุน” คาลวิน เหยียว ผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Blue Edge Advisors Pte. ซึ่งกำลังขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปีและ 30 ปี กล่าว “มันเหมือนกับการแกะสลักน้ำแข็งในไฟป่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ดูดีเมื่อวินาทีที่แล้ว ตอนนี้หายไปหมดแล้ว”
นักลงทุนบางรายคาดว่าผู้จัดการกองทุนสำรองในบางประเทศ เช่น "จีน" อาจกำลังประเมินสถานะการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐใหม่ เนื่องจากผลกระทบอันรุนแรงจากนโยบายการค้าของทรัมป์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าพันธบัตรสหรัฐไม่ใช่ที่หลบภัยอีกต่อไป แต่การซื้อขายดังกล่าวก็แทบจะไม่ได้รับการรายงานแบบเรียลไทม์ โดยทั้ง "จีนและญี่ปุ่น" ซึ่งเป็นสองประเทศผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่ ต่างทยอยลดสัดส่วนพันธบัตรสหรัฐลงมาระยะหนึ่งแล้ว
"จีนอาจเทขายเพื่อตอบโต้เรื่องภาษี" เคนอิชิโร คิตามุระ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย และวางแผนการลงทุนของบริษัทเมจิ ยาสึดะ กล่าวและเสริมว่า "พันธบัตรกำลังเคลื่อนไหวจากปัจจัยทางการเมืองมากกว่าเรื่องดีมานด์ และซัพพลาย แต่ตอนนี้ผมคงต้องรอดูไปก่อน มันยากที่จะเข้าไปทำอะไรในตอนนี้"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์