เงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด หุ้นรายงานพิเศษ BAREIT

เงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด หุ้นรายงานพิเศษ BAREIT

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก สลับลบ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มไอซีที และกลุ่มพลังงาน นักลงทุนติดตามการรายงานตัวเลข CPI ของสหรัฐ โดยช่วงท้ายตลาดมีแรงขายออก เพื่อลดความเสี่ยง

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,661.09 จุด -4.65 จุด -0.28% มูลค่าการซื้อขาย 67,292 ลบ.ต่างชาติ -567.06 ลบ. TFEX -822 สัญญา ตราสารหนี้ +3,348.49 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นอนุมัติการใช้วัคซีนเข็ม บูสเตอร์ของไฟเซอร์และโมเดอร์นาในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
+ ครม.อนุมัติ 9,128 ล้านบาท ช่วยลดค่าไฟเป็นขั้นบันได สำหรับประชาชนที่ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย ตั้งแต่ 10.30 สตางค์/หน่วย และสูงสุดคือ กลุ่มเปราะบางใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย ช่วย 92.04 สตางค์/หน่วย ระหว่างเดือน ก.ย.-ธ.ค.นี้
+ ครม. เห็นชอบตามที่คณะกรรมการเสนอการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยกำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำทั่วประเทศอยู่ที่ 328-354 บาทต่อวัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2565โดยปรับขึ้น 5-8%
+ ส.อ.ท. เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค.65 ว่า อยู่ที่ระดับ 90.5 เพิ่มขึ้นจาก 89.0 ในเดือน ก.ค. เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 3
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 1,321 ราย มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รักษาหาย 1,251 ราย

 

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ร่วงลง 1,276.37 จุด หรือ -3.94% โดยนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะผลักดันให้เฟด เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมเดือนนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 47 เซนต์ -0.5% ปิดที่ 87.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐหลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาดทำให้เกิดความวิตกว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงขึ้นเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

- สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.3%YoY ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1%YoYส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.3%YoY ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.1%YoY
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 33% จากเดิม 0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% ในการประชุมเดือนนี้ และให้น้ำหนัก 67% ลดลงจากเดิม 91% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ปรับตัวลงแรงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงกดดันจาก ดัชนี CPI ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงถึง 1.00% ในการประชุมเดือนนี้ คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,620-1,645 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว+ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว : ERW CENTEL AWC
• วิกฤติพลังงานยุโรป+จีนเริ่มใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น : PRM VL BANPU LANNA AGE
• นายกฯ ออกเกณฑ์ให้ต่างชาติได้ BOI ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ : WHA AMATA ROJNA
• หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA COTTO DCC TASCO

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์

                                                          สนามบินการบินกรุงเทพ (BAREIT)

•BAREIT ลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และส่วนควบของทรัพย์สินบางส่วนที่ใช้ในการดำเนินงานสนามบิน ภายในโครงการสนามบินสมุย เป็นระยะเวลา 25 ปี และให้เช่าช่วงแก่ บจก. กรุงเทพบริหารสนามบิน ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) โดยโครงการสนามบินสมุยเปิดให้บริการมากว่า 33 ปี มีจุดเด่นคือทำเลที่ตั้งบนเกาะสมุย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ World Class และเป็นสนามบินนานาชาติที่รองรับเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ

•โดยในช่วง 10 ปีย้อนหลัง (ปี 2553–62) สนามบินสมุยรองรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกรวมกว่า 2.6 ล้านคนต่อปี และมีเที่ยวบินรวมกว่า 30,000 เที่ยวบินต่อปี โดยกองทรัสต์จะมีรายได้จากการให้เช่าช่วงทรัพย์สินแก่ บจก.กรุงเทพบริหารสนามบิน ตลอดระยะเวลา 25 ปี ภายใต้เงื่อนไข ที่สามารถปรับขึ้นค่าเช่าประมาณปีละ 2%

•ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วย จำนวน 1,033 ล้านหน่วย รวมมูลค่าเสนอขาย 10,330 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าจำนวนไม่เกิน 14,300 ลบ. ทั้งนี้ BAREIT มีนโยบายการจ่ายผลตอบแทนปีละ 4 ครั้ง โดยคาดว่าในปีแรกจะจ่ายผลตอบแทนประมาณ 8.09-8.95% ต่อปี โดยการจ่ายผลตอบแทนอาจจ่ายในรูปเงินปันผลหรือเงินลดทุน

 

หุ้นมีข่าว

(+) BYD ( Bloomberg Consensus - บาท) ปักธงปีนี้ผลงานเทิร์นอะราวด์ ธุรกิจโบรกเกอร์ใกล้ถึงจุดคุ้มทุน เล็งเพิ่มบริการใหม่สร้างฐานลูกค้าใหม่ ส่วนธุรกิจเดินรถปีนี้ทยอยรับมอบรถขั้นต่ำ 896 คัน มูลค่า 6.18 พันล้านบาท คาด 3 ปีมีรายได้มากกว่าโครงการหลักทรัพย์ มองเติบโตต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ICN ( Bloomberg Consensus - บาท) เล็งบิ๊กโปรเจ็กต์มูลค่าพันล้านบาทท้ายปี คาดคว้าได้อย่างน้อย 1 โครงการ หนุนแบ็กล็อกสิ้นปีชน 3 พันล้านบาท ฟากผู้บริหาร "มนชัย มณีไพโรจน์" จรดปากกาเซ็นงาน 5G Smart City กว่า 300 ล้านบาท ส่วนช่วงที่เหลือของปีคาดซดงานเพิ่มราว 800 ล้านบาท เดินเกมปั๊มมาร์จิ้นฟู (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HUMAN (Bloomberg consensus 14.50 บาท) โควิดคลายกังวล หนุนครึ่งหลังปี 2565 แจ่ม พร้อมปักธงปีนี้รายได้โตกว่า 10% จากปีก่อน พอร์ตลูกค้าโต-โปรดักต์ใหม่หนุน แถมเดินหน้าดีล M&A อัพแกร่งระยะยาวเพิ่ม ส่วนปีหน้าจ่อรับรู้การควบรวมกิจการ DataOn เข้ามาเต็มปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg consensus 17.35 บาท) ไตรมาส 3-4 ปริมาณการขนส่งสูงขึ้นต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกจีนเปิดประเทศหนุน แถมปริมาณขนส่งไปยังสหรัฐมีมากขึ้น รวมถึงการย้ายฐานผลิตของจีนที่ทำให้การขนส่งสดใส โดยมีเป้าหมายการขนส่งทั้งปี 10,000 TEUS หนุนผลงานรวมเติบโต 20% ตามเป้าหมาย (ที่มา ทันหุ้น)