วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 ก.ย. 65)
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลัง IEA คาดความต้องการใช้ในช่วงหน้าหนาวจะหนุนราคาน้ำมัน
+ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ปรับตัวเพิ่มขึ้น สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว จากการที่ประชาชนจะเปลี่ยนจากการใช้ก๊าซมาเป็นการใช้น้ำมันเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการทำความร้อนในช่วงฤดูหนาวนี้ (Gas-to-oil switching) โดยคาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันโดยเฉลี่ยในเดือนต.ค. 2565 จนถึงเดือนมี.ค. 2566 จะอยู่ที่ 700,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งคิดเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว
+ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คงคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปี 2565 และ 2566 เท่ากับคาดการณ์ในรายงานประจำเดือนก่อนหน้า โดยขยายตัวที่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปี 2565 และ 2.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจยังคงมีการเติบโตที่ดีขึ้นท่ามกลางความท้าทายของปัญหาเงินเฟ้อสูง
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด ณ วันที่ 9 กันยายน 2565 ปรับเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันมาอยู่ที่ระดับ 429.6 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่มขึ้น 0.4 ล้านบาร์เรล เช่นกัน ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซิลคงคลังปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคาดว่าจีนเตรียมออกโควตาส่งออกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแรงซื้อในตลาดน้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซีย และศรีลังกา อย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคาดว่าจีนจะออกโควตาส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป ปริมาณ 1.5 ล้านตัน (12 ล้านบาร์เรล) ทำให้ปริมาณรวมปรับเพิ่มเป็น 24 ล้านตัน อย่างไรก็ตามโควตานี้ยังถือว่าต่ำกว่าปี 2564 อยู่ 36.2%