ENERGY SECTOR อุปทานก๊าซใน EU จะตึงตัวไปอีกหลายปี

ENERGY SECTOR อุปทานก๊าซใน EU จะตึงตัวไปอีกหลายปี

ประเทศส่วนใหญ่ใน EU กักเก็บก๊าซเอาไว้เกิน 80% ของความสามารถในการเก็บของประเทศแล้ว ซึ่งการกักเก็บก๊าซเต็มกำลังจะเพียงพอให้ประเทศใน EU ใช้ได้สามเดือน

ทั้งนี้ วิกฤติก๊าซที่รุนแรงอาจจะทำให้ภาคอุตสาหกรรมลดการผลิตลง และมีการปิดโรงงาน ซึ่งจะสนับสนุนให้มีการใช้ถ่านหินในยุโรปเพิ่มขึ้น 7% ในปีนี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 14% ในปีที่แล้ว

 

เยอรมนีเช่าท่าเรือรับก๊าซ (floating LNG terminals) ห้าแห่งเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนก๊าซในระยะสั้น

ในปัจจุบัน EU มีLNG terminal  34 แห่ง แต่ในเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปไม่มีเลย  ดังนั้น รัฐบาลเยอรมันจึงเช่า floating storage regasification units (FSRUs) ห้าแห่งเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนก๊าซในระยะสั้น โดยสองแห่งจะเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2022 และอีกสามแห่งจะเริ่มเปิดดำเนินการในช่วงหน้าหนาวปีหน้า ทั้งนี้ FSRUs ดังกล่าวสามารถรองรับอุปสงค์การใช้ก๊าซในปัจจุบันได้หนึ่งในสาม โดย EU นำเข้า LNG รวม 80bcm ในปี 2021 จากกาตาร์ อัลจีเรีย ไนจีเรีย และสหรัฐ ซึ่ง LNG คิดเป็น 20% ของการนำเข้าก๊าซทั้งหมดของ EU

 

การกักเก็บก๊าซเต็มกำลังจะเพียงพอให้ประเทศใน EU ใช้ไปได้สามเดือน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2022 ประเทศส่วนใหญ่ใน EU ได้ทำการกักเก็บก๊าซเอาไว้เกิน 80% ของความสามารถในการเก็บของประเทศแล้ว ซึ่งการกักเก็บก๊าซเต็มกำลังจะเพียงพอให้ประเทศใน EU ใช้ได้สามเดือน ทั้งนี้ ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีความสามารถในการกักเก็บก๊าซเท่ากับหนึ่งในสี่ของ EU ได้ทำการกักเก็บก๊าซเอาไว้ในระดับที่พอสำหรับตอบสนองอุปสงค์เฉลี่ยได้ 90 วัน โดยการนำเข้า LNG มีส่วนช่วยให้ยุโรปเพิ่มการกักเก็บก๊าซได้ในปีนี้  แต่เมื่อไม่มีการส่งก๊าซจากรัสเซียในปี 2023 ตลาด LNG ที่ตึงตัวขึ้นจะไม่สามารถทำให้ยุโรปกักเก็บก๊าซได้ถึงระดับที่น่าพอใจก่อนเข้าสู่ฤดูหนาว ดังนั้น EU จะยังคงต้องอาศัยเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า

 

 

 

ผลก็คือ ภาคอุตสาหกรรมจะลดการผลิต และจะมีการปิดโรงงาน

ในกรณีที่เกิดวิกฤติพลังงานอย่างรุนแรง ภาคครัวเรือน, supermarkets และบริการสาธารณะที่สำคัญ อย่างเช่น โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานีตำรวจ จะเป็นกลุ่มที่ได้รับความสำคัญอันดับต้น ๆ ถ้าหากมีการปันส่วนก๊าซ โดยบริษัทที่จะถูกตัดปริมาณก๊าซลงได้แก่ โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงซึ่งไม่มีความสำคัญกับความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ถัดมาคืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 37% ของอุปสงค์ก๊าซในประเทศเยอรมนี ทั้งนี้ มีหลายประเทศใน EU ที่ใช้วิธีขยายอายุการใช้งานโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือกลับมาเปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ไม่ได้ใช้งานขึ้นมาใหม่ ดังนั้น การใช้ถ่านหินใน EU จึงเพิ่มขึ้น 14% ในปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจดีดตัวขึ้นจาก COVID และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 7% ในปีนี้

 

เราชอบธุรกิจถ่านหินต้นน้ำ รองลงมาคือ E&P และโรงกลั่น

เราเชื่อว่าสถานการณ์อุปทานก๊าซที่ตึงตัวจะกินเวลานานหลายปี และจะต้องมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ LNG ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อยสี่ปี เรามองว่าถ่านหินอยู่ในสถานะที่ดีทีสุดในวิกฤติพลังงานรอบนี้ โดยราคาน้ำมันดิบน่าจะดีดตัวขึ้นหลังผ่านช่วงของการปิดซ่อมบำรุงในเดือนกันยายน-ตุลาคมไปแล้ว เราคาดว่าโรงกลั่นน่าจะได้อานิสงส์จาก GRM ที่แข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าการส่งออกน้ำมันดิบจากจีนที่เพิ่มขึ้นอาจจะกดดันภาวะตลาด และ GRM ในระยะสั้น เราแนะนำซื้อ BANPU เมื่อราคาอ่อนตัว และแนะนำซื้อ PTTEP จากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น และราคาก๊าซที่สูงขึ้นใน 2H