ตลาดทุนยังถูกกดดันจากภาพรวมเศรษฐกิจ แม้แรงกดดันเงินดอลลาร์ฯ ชะลอในระยะสั้น 

คาดจะเห็นการปรับครม.ในบางตำแหน่ง และอาจยุบสภาหลังเป็นเจ้าภาพประชุมเอเปค (18-19 พ.ย.65) ซึ่งทำให้การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2566 2) ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาว่าดำรงตำแหน่งครบวาระ 8 ปี ในกรณีนี้ อาจมีการชี้ว่านายกฯ สามารถรักษาการหรือไม่ ขณะที่สภาผู้แทนราษฎรจะเข้าสู่กระบวนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามบัญชีรายชื่อจากฝั่งรัฐบาล ได้แก่ คุณอนุทิน ชาญวีรกุล, คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะที่รัฐธรรมนูญเปิดช่องให้สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีนอกรายชื่อได้หากได้รับการรับรองจากรัฐสภา (ส.ส.รวมส.ว.) ในกรณีนี้ เราคาดรัฐบาลอาจดำรงตำแหน่งไปจนครบวาระ 24 มี.ค.66 ซึ่งทำให้การเลือกตั้งจะเกิดในช่วงไตรมาส 2/66

 

ภาพรวมการลงทุนโลกยังถูกกดดันจากการปรับประมาณการเศรษฐกิจ แต่จะเริ่มมีแรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง 1) บรรยากาศลงทุนโดยรวมจะยังถูกกดดันจากการรับประมาณฏารเศรษฐกิจโลกของสถาบันต่างๆ อาทิ World Economic Outlook ของ IMF ที่จะออกในช่วง ต.ค. รวมไปถึงการปรับประมาณการกำไรบจ. ของบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก 2) การแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่คาดชะลอตัวลงจากมาตรการแทรกแซงของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก จะเริ่มลดแรงกดดันการอ่อนค่าของสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ 3) ติดตามการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน เริ่ม 16 ต.ค. ซึ่งตลาดมองว่าจะมีการพิจารณาเรื่องขยายวาระการดำรงตำแหน่งของ สี จิ้นผิง แต่จะยังไม่มีการผ่อนปรนมาตรการ Zero-covid   
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 5) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, RS, SC, TH, TLI, BAM, EA, BAFS, CK, MBK, SAMART, ARIN, SVT, MC, TKN, SCGP 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: การหลุด 1,600 ทำให้ภาพตลาดยังม๊โอกาสซึมลง โดยมีกรอบแนวรับถัดไปที่ 1,577 จุด กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ส่วนกลุ่มพลังงานแค่รอเก็งกำไรแนวรับ และเลี่ยงหุ้นโรงกลั่นที่กำไรไตรมาส 3 น่าจะชะลอหนัก (ถ้าจะเลือก ชอบแค่ SPRC) //หุ้นแนะนำ:  ADVANC*, TU*, GUNKUL*, KISS*

แนวรับ: 1,577 / แนวต้าน : 1,600-1,615 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลง สวนทางคาดการณ์ - ลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 193,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 213,000 ราย

เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 0.3% ใน Q3/65 - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3

เวิลด์แบงก์เตือนโลกเสี่ยงเผชิญภาวะ Stagflation ขณะศก.ยุโรปจ่อถดถอย - ประธานธนาคารโลกเตือนว่า การที่ทั่วโลกจะสามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอโดยไม่ต้องพึ่งพารัสเซียนั้น อาจจะต้องใช้เวลานานหลายปี โดยนับตั้งแต่รัสเซียส่งกองกำลังทหารรุกรานยูเครนในเดือนก.พ.นั้น ทั่วโลกก็ต้องประสบกับวิกฤติพลังงาน และส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะชะลอตัวแต่เงินเฟ้อสูง (Stagflation)

เยอรมนีเผยการใช้ก๊าซในครัวเรือนสูงเกินไป เสี่ยงเกิดวิกฤติพลังงาน – การใช้ก๊าซธรรมชาติในครัวเรือนในสัปดาห์ที่แล้วของเยอรมนีซึ่งส่วนใหญ่เป็นการใช้ก๊าซทำความร้อน รวมถึงอุตสาหกรรมขนาดเล็ก สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561-2564 ถึง 14.5%

หุ้นปอร์เช่ พุ่ง 1.8% หลังทำ IPO –ระดมทุนได้ราว 1.95 หมื่นล้านยูโร มูลค่าตลาด 7.5 หมื่นล้านยูโร อย่างไรก็ตามราคาปิดการซื้อขาย 82.46 ต่ำ IPO ที่ 84 ดอลลาร์ฯ

TOP นำหุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดวันนี้ – โดยสามารถระดมทุนรวม 11,500 ล้านบาท

TSR แจกวอแรนต์ฟรี 2:1 ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1 พันลบ. - ผู้ถือหุ้น บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) อนุมัติแจกวอแรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 วอแรนต์ อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ราคาใช้สิทธิ 3 บาท/หุ้น พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนรองรับการใช้สิทธิของวอแรนต์-ออกหุ้นกู้วงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เสริมความแข็งแกร่ง

TEGH เข้า IPO เทรดวันแรก - บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดธุรกิจการเกษตร มีรายได้ส่วนใหญ่ ประมาณ 80% จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ ได้แก่ ยางแท่ง และน้ำยางข้น ขายให้ผู้ผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ CH, DPAINT

Opportunity day – 30 ก.ย. – MVP, UREKA, SUTHA   

 

ประเด็นติดตาม: 30 ก.ย. – EU CPI, US Core PCE Price Index / 3 ต.ค. – US ISM Manufacturing PMI / 4 ต.ค.- US JOLTs Job Openings / 5 ต.ค. – TH CPI, ISM Non-Manufacturing PMI, US Crude Oil Inventories / 6 ต.ค. – US Initial Jobless Claims / 7 ต.ค. – US Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)