EKH - ยินดีต้อนรับ ลูกค้าจีนกลับมา (10 ต.ค. 2565)
EKH จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของไทยและจีน (คาดหลัง 16 ต.ค.) รายได้ non-Covid และ IVF จากลูกค้าจีนจะกลับสู่ระดับก่อนโควิด กำไรจะโต 9% ใน FY23F และ 18% ใน FY24F และสูงกว่ากำไรก่อนโควิด
เราให้มูลค่ารพ. 9.20 บาทและอัพไซด์อีก 0.3-0.4 บาทจากการถือหุ้นใน KLINIQ ผลตอบแทนรวมน่าสนใจที่ 16% แนะนำ “ซื้อ”
กำไรจะโต 9% ใน FY23F และ 18% ใน FY24F (ถึงแม้ไม่มีรายได้โควิด) เป็น 227 ลบ.และ 268 ลบ.ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนโควิด สนับสนุนจากการปลดล็อคอุปสงค์คงค้างของ IVF และรายได้ non-Covid ฟื้นตัว และปรับราคาขึ้น 3-5%
รายได้ IVF จะเติบโตก้าวกระโดด เป็น 150 ลบ. และ 200 ลบ.ใน FY23F-24F (คิดเป็น 68% และ 90% ของรายได้ IVF ก่อนโควิดตามลำดับ) จาก 38-42 ลบ.ใน FY20-21 และจะกลับเป็นกำไร 30 ลบ.และ 40 ลบ.ใน FY23F-24F จากขาดทุน 14-24 ลบ.ใน FY20-21 จากการปลดล็อคอุปสงค์คงค้างของลูกค้าจีน (นโยบายให้มีบุตรได้ >2 คนเริ่ม 1 มิ.ย. 2021) ซึ่งคาดว่าจีนจะเปิดประเทศหลังประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ 16 ต.ค.นี้ รายได้จากลูกค้าจีน >90% ของรายได้ IVF ก่อนโควิด
รายได้ non-Covid จะฟื้นตัว โดยเฉพาะศูนย์ฯ สูติฯ และศูนย์ฯ เด็ก (EKH มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเทียบกับรพ.เอกชนในสมุทรสาคร) และศูนย์ฯ อุบัติเหตุ เราคาดรายได้ non-Covid เพิ่มขึ้น 16% เป็น 970 ลบ.ใน FY23F และ 12% เป็น 1.1 พันลบ.ใน FY24F จากจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดตามฤดูกาลและอุบัติเหตุในโรงงานสูงขึ้น EKH ยังมีแหล่งรายได้เพิ่มจากตรวจ ATK ผู้ป่วยที่มีไข้ และขยายแผนกไตเทียม
ความเสี่ยงจากการแปลงสภาพ EKH-W1 พ.ย.นี้ 150 ล.หน่วย 1:1 @ 6.30 บาท/หุ้น
Action/ Recommendation
เราให้มูลค่าธุรกิจรพ. 9.20 บาท (fully dilution) จาก 29x PER (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเล็กน้อย) และมีอัพไซด์จากการจดทะเบียนใน MAI ของ KLINIQ อีก 0.3-0.4 บาท/หุ้น (สมมติฐาน: กำไร 184-202 ลบ. [EPS 0.84-0.92 บาท], PER 16-22 เท่า EKH ถือหุ้น 16 ล้านหุ้น @ 10.3 บาท/หุ้น) EKH ให้ผลตอบแทนรวม 16% “ซื้อ”