CSC “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 66.25 บาท (11 พ.ย. 2565)
ปรับลดประมาณการกำไรปี 65 ลงเล็กน้อย 5% สู่ 269 ลบ. แต่ยังคงเติบโต 39%YoY
ประเด็นสำคัญในการลงทุน
• กำไรงวด 3Q65 เท่ากับ 54 ลบ. +25%YoY -25%QoQ: บริษัทรายงานรายได้จากการขายและบริการช่วง 3Q65 เท่ากับ 919 ลบ. +32%YoY +1%QoQ ส่งผลให้ช่วง 9M65 มีรายได้เท่ากับ 2,680 ลบ. +30% (อยู่ในกรอบที่เราคาดการณ์ว่ารายได้ทั้งปี 65 จะเติบโตราว 29%) ขณะที่ %GPM ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 12.6% (3Q64 = 10.1%, 2Q65 = 11.4%) เนื่องจากราคาวัตถุดิบในช่วง 3Q65 ปรับลดลงเฉลี่ย 27%YoY 24%QoQ (Figure 3) ส่วน %SG&A/Sales ปรับลงมาสู่ 7.5% (3Q64 = 9.6%, 2Q65 = 9.2%) จากการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและจากการประหยัดจากขนาด ทำให้งวด 3Q65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 54 ลบ. +25%YoY -25%QoQ ส่วนงวด 9M65 มีกำไร 206 ลบ. +26%YoY และคิดเป็น 73% ของประมาณกำไรทั้งปี 65 เดิมที่ 283 ลบ.
• ปรับลดประมาณการกำไรปี 65 ลงเล็กน้อย 5% สู่ 269 ลบ. +39%YoY: เราคงประมาณการรายได้ปี 65 ที่ราว 3,730 ลบ. +29%YoY หลังจากรายได้ 9M65 เติบโตเป็นไปตามที่คาด โดยแนวโน้มรายได้ปีนี้มีทิศทางเติบโตดีขึ้นตามอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัวหลังจากภาครัฐประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้สถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้แนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลมและแอลกอฮอล์เร่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม %GPM ช่วง 9M65 ทำได้เพียง 11.7% เราจึงปรับสมมติฐาน %GPM ทั้งปี 65 ลดลงจากระดับเดิมที่ 12.5% สู่ระดับใหม่ที่ 12.1% โดยแนวโน้มราคาวัตถุดิบในช่วง 4Q65 ยังคงปรับลดลงต่อเนื่องเฉลี่ยราว -32%YoY -3%QoQ (Figure 3) ซึ่งจะช่วยหนุน %GPM ใน 4Q65 ให้เร่งตัวดีขึ้น ทั้งนี้ เราปรับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 65 ลดลงเล็กน้อย 5% สู่ 269 ลบ. +39%YoY ส่วนปี 66 เราประมาณการรายได้และกำไรสุทธิราว 3,924 ลบ. +5%YoY และ 287 ลบ. +7%YoY ตามลำดับ เติบโตตามทิศทางภาวะอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น (Figure 2)
• คงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 66 ราว 66.25 บาท: เราปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 66 CSC ที่ราว 68.25 บาท (จากราคาเหมาะสมเดิมในปี 65 ที่ราว 65 บาท) โดยอิง Prospected PE ที่ระดับเดิม 12x (1.5SD + 3Yr.-Avg PE) และคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 66 ราว 5.5 บาท โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์กว่า 39% เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
1) สถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อ
2) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
3) สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น
4) ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ และอัคคีภัย