HARN คาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 เติบโต 5%YoY

HARN คาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 เติบโต 5%YoY

รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q65 ที่ 28.4 ลบ. เติบโต 193.8%YoY และ 24.0%QoQ: บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 328.8 ลบ. เติบโตสูงถึง39.8%YoY จากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 9.4%QoQ จากการทยอยส่งมอบงาน จากยอดคำสั่งซื้อค้างส่งจากปี 64

และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 29.4% ใกล้เคียง YoY, QoQ จากระดับ 29.3% ใน 3Q64 และที่ ระดับ 29.7% ใน 2Q65 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิงวด 3Q65 เท่ากับ 28.4 ลบ. คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 8.6% ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง YoY, QoQ จาก 4.0% ใน 3Q64 และ 7.6% ใน 2Q65 ด้านฐานะการเงินยังคงแข็งแกร่ง อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ที่ระดับ 0.30 เท่า อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 0.57 เท่า และมีสภาพคล่องรองรับการลงทุนเพิ่มโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินกู้

HARN คาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 เติบโต 5%YoY

•    คงประมาณการกำไรสุทธิปี 65 ที่ 85 ลบ. เติบโต 17%YoY: เราคาดการณ์รายได้ และกำไรสุทธิปี 65 ที่ 1,180 ลบ. และ 85 ลบ. เติบโต 15% และ 17% จากปี 64 โดยรายได้ และกำไรในช่วง 9M65 คิดเป็น 78% และ 80% ของประมาณการปี 65 ส่วนรายได้ในงวด 4Q65 บริษัทคาดอยู่บริเวณ 327-345 ลบ. เติบโตเล็กน้อย QoQ แต่เติบโต 23-30%YoY จากผลการดำเนินงานของบริษัทที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้ประมาณการเราในปี 65 มีอัพไซต์เล็กน้อย ณ สิ้นเดือน ก.ย. 65 มี backlog 467 ล้านบาท (ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดือนมิ.ย. 65 ที่ 416 ล้านบาท) ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปี 65 จนถึงปี 66 ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเปิดประเทศ ทำให้งานก่อสร้างในประเทศกลับมาคึกคัก พร้อมทั้งการติดตั้งระบบและอุปกรณ์ดับเพลิงที่ผู้คนจะตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบริษัทได้รับงานติดตั้งระบบดับเพลิงจากโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการ One Bangkok, Dusit Central Park, Mulberry Grove the Forestias ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถจำแนกได้ 5 กลุ่มดังต่อไปนี้ (ดังแสดงในภาพโครงสร้างรายได้ 9M65)

 


 

HARN คาดการณ์กำไรสุทธิปี 66 เติบโต 5%YoY

o    ผลิตภัณฑ์งานขายและติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงทั้งในอาคารสำนักงาน อาคารพักอาศัยและโรงงานอุตสาหกรรม (สัดส่วน 45% ของรายได้รวม)  
o    ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศ (สัดส่วน 4%ของรายได้รวม) VRF ที่เป็นที่นิยม จุดเด่นคือประหยัดพลังงาน  
o    ระบบทำความเย็น (สัดส่วน 19%ของรายได้รวม) HARN เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์เครื่องทำความเย็น รวมถึงออกแบบและให้คำปรึกษาระบบทำความเย็น
o    ผลิตภัณฑ์ระบบการพิมพ์ดิจิทัล (สัดส่วน 29%ของรายได้รวม) ซึ่งใช้เทคโนโลยีการพิมพ์เลเบิล สติ๊กเกอร์ 
o    ผลิตภัณฑ์ระบบไอโอที (IoT) (สัดส่วน 0.62%ของรายได้รวม) ใช้สำหรับติดตั้งตามอาคารเพื่อติดตามการทำงานของระบบพื้นฐานของงานอาคารจากส่วนกลาง เช่นติดตามการใช้พลังงานในอาคาร การแจ้งเตือนความผิดปกติเสียหายของระบบผ่านหน้าจอแสดงผล (Monitoring Dashboard) 

•    คงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 เท่ากับ 89 ลบ. เติบโต 5%YoY:  เราคาดการณ์รายได้ และกำไรสุทธิปี 66 เท่ากับ 1,239 ลบ. และ 89 ลบ. เติบโต 5%YoY ทั้งรายได้ และกำไร เป็นการเติบโตจากธุรกิจเดิม และจะเน้นไปที่สินค้าใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี รวมถึงแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ เราคาด %GPM ที่ระดับ 30.5% ใกล้เคียงกับช่วงปี 65 
 

 

 

•    คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 66 เท่ากับ 2.43 บาท: ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวจากผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องใช้งานในอาคารและโรงงาน เราประมาณกำไรต่อหุ้นปี 66 เท่ากับ 0.152 บาท และใช้ Prospective P/E ใหม่ที่ระดับ 16 เท่า (อิง PER ย้อนหลัง 5 ปีของบริษัทที่ระดับ +0.50SD) ลดลงจากเดิมที่ระดับ 18 เท่าเนื่องจากคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่ชะลอลง (คาดกำไรปี 66 เพิ่มขึ้น 5%)  ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 66 เท่ากับ 2.43 บาท ราคาเหมาะสมมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 12.7% ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ในอนาคตราว 4.9% ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       

ปัจจัยเสี่ยง :
1.    การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความล่าช้าทำให้กำลังซื้อลดลง
2.    การสูญเสียการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า
3.    การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาคธุรกิจชะลอการลงทุน 
4.    อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนส่งผลต่อต้นทุนสินค้านำเข้า