วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (25 ม.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา 

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า 2% หลังสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Composite PMI) เดือน ม.ค. 65 ที่ระดับ 46.6 ซึ่งต่ำกว่าระดับ 50 บ่งบอกถึงการหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดย S&P Global เผยกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ดีนักจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนตัว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. นี้ เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นด้วยอัตรา 0.25% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง 

+ อุปทานน้ำมันดิบในตลาดยังคงมีแนวโน้มตึงตัว โดยนักวิเคราะห์คาดว่าในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. กลุ่มโอเปคพลัส (OPEC+) จะยังคงแผนการผลิตเดิมที่มีการลดปริมาณการผลิตลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อเนื่องไปจนถึงการประชุมหลักครั้งถัดไปในเดือน มิ.ย. ขณะที่อุปสงค์น้ำมันเชื้อเพลิงในจีนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลังจากเปิดประเทศ 

- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สาหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ม.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล

 

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ตลาดปิด เนื่องจากวันหยุดตรุษจีน

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ตลาดปิด เนื่องจากวันหยุดตรุษจีน