TTB - เน้นโตแบบมีคุณภาพ (27 มกราคม 2566)
TTB ตั้งเป้าขยายพอร์ตสินเชื่อและ NIM ไว้ไม่สูงในปี 2023 ในขณะที่วางเป้าหมายสัดส่วน C/I ปีนี้เอาไว้ใกล้เคียงปีที่แล้ว โดยลดความสำคัญเรื่องการลดค่าใช้จ่ายขณะที่มีแผนจะลงทุนเพิ่มในด้าน IT ด้านสัดส่วน NPL อาจจะขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จะไม่เกิน 2.9%
ดังนั้น credit cost น่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ 125-130bps ทั้งนี้ เป้าหมายทางการเงินส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับที่เราคาด ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ TTB ประเมินราคาเป้าหมาย 1.65 บาท
เน้นแผนจะปรับธุรกิจให้อยู่ในระดับเหมาะสมมากกว่าจะเร่งสร้างการเติบโต
TTB มีแผนจะขยายพอร์ตสินเชื่อไม่สูงมากนักที่ 3% ในปี 2023 โดยตั้งเป้าจะขยายสินเชื่อแบบเฉพาะแค่บางกลุ่ม และเน้นปรับพอร์ตงบดุลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หลังจากที่ทำการรวมระหว่างต้นทุนการเงินที่ต่ำ และ portfolio yield ที่ต่ำของ TMB เข้ากับต้นทุนทางการเงินที่สูงและ portfolio yield ที่สูงของ TBANK เข้าด้วยกัน โดยผู้บริหารเชื่อว่าแนวทางนี้เป็นแนวทางที่เหมาะสมมากกว่าจะเร่งสร้างการเติบโตท่ามกลางความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ TTB จะใช้จุดแข็งของ TMB ในด้านของการหาเงินฝากและจะขยายสินเชื่อเพิ่มให้กับลูกค้าเดิมจากสินเชื่อมีหลักประกันเป็นสินเชื่อไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้น
ได้อานิสงส์น้อยกว่าจากการขึ้นดอกเบี้ยและลดแผนการประหยัดต้นทุน
ขณะที่ด้านเป้า NIM ผู้บริหารมองเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจาก 2.95% ในปีที่แล้ว เป็น 3.0-3.1% ในปี 2023 เพราะพอร์ตสินเชื่อของ TTB มีสัดส่วนสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะสินเชื่อ HP ราว 30% ดังนั้น ธนาคารจึงจะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้นน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารใหญ่อื่นๆ ในขณะเดียวกัน TTB ลดความคาดหวังเรื่องการประหยัดต้นทุนลงในปีนี้เพราะบริษัทมีแผนจะลงทุนเพิ่มในระบบ IT และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ภายใต้กลยุทธ์ “Digital-first” ซึ่งรวมถึง features ใหม่ ๆ ของ แอพฯ อย่างเช่น MY CAR, MY WORK และ MY HOME อย่างไรก็ตาม คาดว่าสัดส่วน C/I จะยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 40 กลาง ๆ ทั้งนี้ เราเชื่อว่าถึงแม้ TTB จะไม่ได้เป็นผู้นำในด้าน fintech แต่ธนาคารจะได้ประโยชน์จากต้นทุนการลงทุนทางเทคโนโลยีที่ถูกกว่าในฐานะที่เป็นกลุ่มที่สองที่ขยับตัวเพื่อพัฒนา platform ดิจิทัล
คงคำแนะนำ ซื้อ จากแนวโน้มการเติบโตที่เป็นบวก และ upside ของราคาหุ้น
เราประเมินว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจส่วนใหญ่ที่ผู้บริหารประกาศออกมาในวันนี้อาจจะยังไม่ได้ส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิได้ทันที แต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระยะยาว และช่วยประหยัดต้นทุนในการให้บริการในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการที่จะสามารถอยู่ในตลาดต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันจากผู้เล่นรายใหม่เช่น virtual banking ในอนาคต ทั้งนี้ เป้าหมายทางการเงินส่วนใหญ่ของ TTB เป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้ โดยเราคาดว่ากำไรสุทธิของ TTB จะโตประมาณ 15% ผสมผสานจาก 1) สินเชื่อที่ขยายตัวขึ้นกอปรกับ 2) NIM ที่เร่งตัว และ 3) non-NII ฟื้นตัวขึ้น เรายังคงคำแนะนำซื้อ TTB จากแนวโน้มการเติบโตของกำไร และ upside ของราคาหุ้น โดยเราประเมินราคาเป้าหมายที่ 1.65 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.7x