Wrap up February 2, 2023

ตลาดช่วงเช้า:

SET ปรับตัวขึ้นทันที หลังผลการประชุมเฟดเป็นไปตามคาดที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% พร้อมทะยานตัวขึ้นมาแตะ 1,692.94 จุด (+7.19 จุด) นาโดยหุ้นชิ้นส่วนฯ อย่าง DELTA, HANA, KCE และ SMT รวมถึงหุ้นไฟแนนซ์ ขณะที่หุ้นธนาคารขยับขึ้นเล็กน้อย แต่มีแรงขายทากาไรเข้ามาบริเวณ 1,692 จุด และเมื่อหุ้นพลังงานย่อตัวลง โดยเฉพาะ DELTA ที่ลดช่วงบวกลง ดัชนีจึงถอยกลับลงมาเร็ว ส่วน Volume คึกคักแค่ช่วงชั่วโมงแรกเท่านั้น

 

ตลาดช่วงบ่าย:

ดัชนีมีประเด็นเกี่ยวกับดอกเบี้ยให้ตามต่อในส่วนของ BoE กับ ECB ที่จัดประชุมวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามเฟด ขณะที่ปัจจัยภายในถือว่าไม่มีอะไรใหม่ ที่ยังคงเป็นเรื่องของงบ 4Q22 และทิศทางการไหลเข้า-ออกของ Fund Flow แต่ด้วยดัชนีที่ดีดขึ้นหาแนวต้านบริเวณ 1,692–1,696 จุด แล้วเกิดการถอยกลับลงมาเสมอ ถือเป็นทรงที่ไม่ดีนัก ซึ่งหากดัชนียังคงมีรูปแบบดังกล่าวต่อไป ดัชนีจะพักตัวลงในที่สุด อย่างไรก็ตามในบ่ายนี้ เราคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัว Sideways ถึงมีโอกาสดีดขึ้นทดสอบแนวต้านอีกครั้ง 1,692 จุด

 

 

News Update

- นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกดีเซลอยู่ที่ 34.50 บาท/ลิตร โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 66 เป็นต้นไป โดยการปรับลดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน หลังจากที่ขยับราคาน้ำมันดีเซล มาอยู่ที่ 35 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา การปรับลดราคาขายปลีกดังกล่าวเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยสำคัญ คือ ปัจจัยด้านสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง โดยมีสัญญาณการลดลงตั้งแต่เดือน พ.ย.65 ที่ผ่านมา โดยในปี 65 ราคาเฉลี่ยน้ามันดีเซล (Gas Oil) ตลาดโลกอยู่ที่ 135.53 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และในเดือน ม.ค. 66 ราคาน้ำมันดีเซลลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 116.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล รวมทั้งยังมีปัจจัยจากการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติปรับอัตราภาษีลดลงประมาณ 5 บาท/ลิตร ต่อไปอีกเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. - 20 พ.ค.66 โดยเป็นมาตรการต่อเนื่องตั้งแต่ ก.พ. 65 เป็นต้นมา ปัจจุบันประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง วันที่ 29 ม.ค. 66 ติดลบอยู่ที่ 113,436 ล้านบาท (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

 

- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ตั้งเป้าหมายปี 66 สินเชื่อเติบโต 3-5%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) 3.3-3.5% และคุมอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ไว้ที่ 2.5-2.6% ขณะเดียวกันคาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะใกล้เคียงปีก่อน, ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยต่อรายได้รวมจะอยู่ในระดับกลาง หรือ Mid-40s, อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 145-155% เป้าหมายทางการเงินดังกล่าวเป็นการคาดการณ์ของธนาคารในเบื้องต้น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป (ที่มา: สานักข่าวอินโฟเควสท์)

- DUSIT เผยว่า ในขณะที่การท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง กลุ่มดุสิตธานีมีแผนที่จะขยายธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในปี 66 เพิ่มขึ้นอีก 14 แห่ง รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,700 ห้อง ใน 7 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งในเอเชียและยุโรป รวมถึงประเทศไทย ซึ่งจะทำให้พอร์ตโฟลิโอทั่วโลกของกลุ่มดุสิตในปีนี้ มีโรงแรมรวมกันทั้งหมด 62 แห่ง หรือประมาณ 13,700 ห้อง ใน 17 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งยังมีอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 60 แห่งที่อยู่ในระหว่างการดำานินการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการภายใน 3-4 ปีข้างหน้า บริษัทยังมีแผนบุกตลาดในทวีปยุโรปเป็นครั้งแรก ด้วยการเปิดโรงแรมบูติคโฮเทลภายใต้แบรนด์ ดุสิตสวีท ที่เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ 1 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมที่จะเปิดโรงแรมในต่างประเทศเพิ่มเติมในจุดหมายปลายทางที่เคยมีแล้ว ได้แก่ ประเทศเนปาล 2 แห่ง ประเทศอินเดีย 2 แห่ง ประเทศเคนย่า 1 แห่ง และประเทศจีน 3 แห่ง ทั้งนี้ บริษัทยังวางแผนที่จะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มเติมในประเทศไทยอีก 3 แห่ง ได้แก่ 1) โรงแรมอาศัย กรุงเทพ สาทร 2) โรงแรมดุสิตดีทู สามย่าน กรุงเทพ และ 3) โรงแรมดุสิตปริ๊นเซส พัทลุง ซึ่งจะทำให้กลุ่มดุสิตธานีมีโรงแรมและรีสอร์ทในประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 18 แห่ง (ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์)