เลือกเก็งกำไรรายตัว ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดี กลับมากดดันตลาดระยะสั้น
การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ม.ค.66 เพิ่มขึ้น 517,000 ตำแหน่ง สูงกว่าคาดการณ์ที่ 188,000 ตำแหน่ง และเร่งตัวขึ้นจาก ธ.ค.65 ที่ 223,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงาน ม.ค.65 ลดลงเหลือเพียง 3.4% ออกมาดีกว่าคาดการณ์ที่ 3.6% และดีกว่า ธ.ค.66 ที่ 3.5%
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งกว่าคาด แม้ในมุมบวกจะช่วยลดโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย แต่ในมุมลบคือ เป็นความเสี่ยงต่อโอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด หรืออาจทำให้การตรึงดอกเบี้ยต้องดำเนินไปยาวนานกว่าที่จะมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง ปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลต่อความผันผวนของการลงทุนในระยะสั้น
ความตึงเครียดจีน-สหรัฐฯ คาดส่งผลให้บรรยากาศลงทุนระยะสั้นผันผวน แต่เป็นบวกต่อแนวโน้มการย้ายฐานการผลิต ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์หลังโจ ไบเดน ประธานาธิปดีสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ยิงบอลลูนสัญญาติจีนที่ต้องสงสัยว่าจะถูกใช้เพื่อสอดแนม ขณะที่ทางการจีนระบุเป็นเพียงบอลลูนเพื่อการวิจัยสภาอากาศ ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เลื่อนกำหนดการเยือนจีน ทั้งนี้ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศษสตร์ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่สูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการเริ่มกระจายความเสี่ยงการลงทุนออกจากจีน และย้ายฐานการผลิตไปยังภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะอาเซียน ที่ยังได้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานที่อยู่ในจีน แต่มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า สถานการณ์ดังกล่าวเรามองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ WHA, AMATA และ ROJNA
ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ DMT, TVDH, FLOYD, SORKON, ASW, S, CBG, AEONTS 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR
ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังมีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นเชิงบวก แม้อาจจะผันผวนจากงบรายตัวในระยะสั้นบ้างก็ตาม การเก็งกำไรระยะสั้นเน้นหุ้นที่ยัง Laggard และเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่จะลดลง //หุ้นแนะนำ: ROJNA*, MILL*, FLOYD*, AMANAH*
แนวรับ: 1,670 / แนวต้าน : 1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
สหรัฐเผยจ้างงานนอกภาคเกษตร +517,000 สูงกว่าคาดการณ์ – พุ่งขึ้น 517,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง
จีนเพิ่มการลงทุนตามแนว BRI เน้นด้านเทคโนโลยี - จีนได้ลงทุนในประเทศต่างๆ ตามแนวเส้นทางสายไหมใหม่ หรือ โครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (BRI) เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยการลงทุนใน 147 ประเทศในแถบ BRI เพิ่มสูงขึ้น 63% แตะที่ 3.25 หมื่นล้านดอลลาร์จากปีก่อนหน้า
ฟ็อกซ์คอนน์เผยรายได้เดือนม.ค.พุ่งทำสถิติใหม่ – รายได้ในเดือนม.ค.พุ่งทำสถิติใหม่ที่ 6.604 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน (2.2 พันล้านดอลลาร์) และ พุ่งขึ้น 48.2% เมื่อเทียบรายปี และ 4.93% เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้แรงหนุนจากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคอัจฉริยะ รวมถึงสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นในระดับเลข 2 หลัก
เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 เปิดลงทะเบียนใช้สิทธิ 8 มี.ค. – จะเปิดระบบรับสมัครผู้ประกอบการโรงแรม/ที่พักรายใหม่เข้าร่วมโครงการฯ กำหนดระหว่างวันที่ 8-15 กุมภาพันธ์ 2566 ทางwww.เราเที่ยวด้วยกัน.com จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิเพื่อจองโรงแรม/ที่พัก ในวันที่ 8 มีนาคม 2566 และเริ่มเข้าพักได้ในวันที่ 11 มีนาคม 2566 - 30 เมษายน 2566
SAWAD เข้า SET50 แทน DTAC – หลังการควบรวม TRUE-DTAC โดย SAWAD มี Market Cap สูงสุดในหุ้นสำรอง หรือ Reserve List ส่วน SIRI เข้า SET100 โดยทั้ง 2 หุ้นจะเข้าคำนวณวันที่ 3 มี.ค. 66
UPA เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น GTV - บมจ. ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เตรียมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บมจ.กรีนเทค เวนเจอร์ส (GTV )
MASTER เข้า Cash Balance - ตั้งแต่ 6 ก.พ.-24 ก.พ.
ประเด็นติดตาม: 6 ก.พ. – TH CPI, EU Retail Sales / 7 ก.พ. - Fed Chair Powell Speaks / 8 ก.พ. – US Crude Oil Inventories / 9 ก.พ. - Initial Jobless Claims / 14 ก.พ. – US CPI / 15 ก.พ. – EU Core Retail Sales, US Retail Sales / 16 ก.พ. – US Building Permits, US PPI
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)