วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (9 ก.พ. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ระบุว่าเงินเฟ้อกำลังจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งฉุดสกุลเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลง ทำให้การซื้อขายน้ำมันสกุลเงินนี้ มีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

+ ตลาดกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัว หลังการหยุดดำเนินการของท่าเรือ Ceyhan ซึ่งเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ในตุรกีที่ส่งออกน้ำมันดิบมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน จากเหตุการณ์การเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงภายในประเทศ ขณะที่ BP Azerbaijan ประกาศเหตุสุดวิสัยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. เป็นเหตุให้ต้องระงับการส่งมอบน้ำมันดิบ Azeri อย่างไรก็ตาม ท่อขนส่งน้ำมันดิบจากอิรักได้กลับมาดำเนินการตามปกติ

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 ก.พ. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 455.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล 
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนในเดือนก.พ. มีแนวโน้มลดลง ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมเการแพร่ระบาดโรค COVID-19

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าความต้องการใช้น้ำมันดีเซลภายในภูมิภาคจะยังคงที่ รวมถึงสต็อกน้ำมันดีเซลในยุโรปและเอเชียสูงกว่าที่คาดไว้ก็ตาม