MINT ผลประกอบการ 4Q65: ดีกว่าคาด 24% (24 ก.พ. 2566)
หากไม่นับรวมรายการพิเศษ (เช่น ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) MINT รายงานกำไรปกติใน 4Q65 ที่ 2.4 พันล้านบาท (+44% YoY และ +18% QoQ)
โดยออกมาดีกว่าที่เราคาด 24% จากรายได้จากธุรกิจโรงแรมดีกว่าคาด 5% และ EBIT margin สูงกว่าที่ประเมินไว้ 2.7ppts ในภาพรวม รายได้ใน 4Q65 ทำระดับสูงสุดในรอบหลายไตรมาสที่ 3.49 หมื่นล้านบาท (+43% YoY และ +3% QoQ) ขณะที่ EBIT margin ดีขึ้นอยู่ที่ 16.9% (+7.9 ppts YoY และ +1.8ppts QoQ) โดยสรุป กำไรปกติปี 2565 อยู่ที่ 2 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิที่ 9.3 พันล้านบาทในปี 2564
ธุรกิจโรงแรม: RevPar เติบโต 67% YoY แต่แผ่วลง 9% QoQ
RevPar รวมใน 4Q65 อยู่ที่ 3,176 บาท (+67% YoY และ -9% QoQ) จาก i) occupancy rate ที่ 63% (+15ppts YoY และ -5ppts QoQ) และ ii) ARR อยู่ที่ 5,009 บาท (+26% YoY และ -2% QoQ) ทั้งนี้ โรงแรมในยุโรป (ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของธุรกิจโรงแรม) เข้าสู่ช่วง low season ใน 4Q65 กดดัน RevPar รวมให้ปรับตัวลง QoQ (Figure 3) ขณะที่ ผลการดำเนินงานนอกยุโรปยังคงแข็งแกร่ง เช่น โรงแรมในประเทศไทย (RevPar เติบโตเด่น 207% YoY และ 66% QoQ)
ธุรกิจร้านอาหาร: SSS ขยับขึ้น 4% YoY ใน 4Q65
SSSG ใน 4Q65 อยู่ที่ 4% YoY (Figure 6) ร้านอาหารในประเทศไทยและออสเตรเลียยังเติบโตได้ต่อเนื่องที่ 4% และ 15% ตามลำดับ ซึ่งสามารถช่วยชดเชยผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ของร้านอาหารในประเทศจีน (SSSG อยู่ที่ -26% YoY ใน 4Q65) จากยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่สูงขึ้น สำหรับในระยะถัดไป เรามองว่าธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทยจะยังคงแข็งแกร่งใน 1Q66F ขณะที่ร้านอาหารในประเทศจีนจะฟื้นตัวได้ จากการยกเลิกมาตราการ lockdown ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 แล้ว
Valuation & action
เรามองว่าประมาณการกำไรปีนี้ (2566F) ของเรายังมี upside อยู่อีก สำหรับในระยะสั้น เราคาดกำไรใน 1Q66F จะเติบโต YoY แต่ ลดลง QoQ เนื่องจากโรงแรมในยุโรปเข้าสู่ช่วง low season ที่สุดของปี ทั้งนี้ เรายังคงแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 41.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ปี 2566F ที่ 15.0x เท่ากับค่าเฉลี่ยระยะยาว -0.5S.D.
Risks
COVID-19 ระบาดนานกว่าที่คาดไว้