CPALL ผลประกอบการ 4Q65: ยอดขายฟื้นภายใต้ต้นทุนที่สูงขึ้น
CPALL รายงานกำไรจากการดำเนินงานปกติ 4Q65 ที่ 3 พันล้านบาท (+4% YoY และ -24% QoQ) ต่ำกว่านักวิเคราะห์ในตลาด (consensus) คาด 21% โดยรวมแล้ว กำไรปกติปี 2565 อยู่ที่ 1.33 หมื่นล้านบาท (+53% YoY) ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเรา 8%
การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ใน 4Q65 อยู่ที่ 15%
ยอดขายรวมของบริษัทในเครือ CPALL อยู่ที่ 2.189 แสนล้านบาท (+22% YoY,และ +5% QoQ) ทำให้ยอดขายปี 2565 อยู่ที่ 8.29 แสนล้านบาท (+47% YoY) สนับสนุนจากธุรกิจค้าส่ง (Siam makro PCL (MAKRO.BK/ MAKRO TB)) และธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVs) จากการกลับมาของกิจกรรมทางธุรกิจ ทั้งนี้ CVs มี SSSG ใน 4Q65 อยู่ที่ 15% ทำให้ SSSG ปี 2565 อยู่ที่ 15.9% (สูงกว่าประมาณการเราที่ 12%) ขณะที่ CPALL ยังขยายสาขาร้านใหม่ต่อเนื่องอีกราว 200 ร้านใน 4Q65 ทำให้สาขาทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 13,838 ร้าน ณ สิ้นปี 2565 (เทียบกับ 13,134 ร้านเมื่อสิ้นปี 2564)
อัตรากำไรขั้นต้นรวมแผ่วลงเล็กน้อย
อัตรากำไรขั้นต้นรวมบริษัทในเครือใน 4Q65 อยู่ที่ 21.6% (ทรงตัว YoY แต่ -20bps QoQ) ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังไม่น่าประทับใจเนื่องจากส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจค้าส่งที่สูงขึ้นอีกทั้ง product mix ในร้านสะดวกซื้อมีสัดส่วนสินค้าที่มีกำไรน้อยเพิ่มขึ้น (บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ขณะที่ ในช่วง 4Q65 ร้านสะดวกซื้อมีสัดส่วน Product mix ระหว่างสินค้าหมวดอาหารและหมวดที่ไม่ใช่อาหารอยู่ที่ 73.9% และ 26.1% โดยมี margin ที่ 26.4% และ 27.1% ตามลำดับ
ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหาร (SG&A ) สูงขึ้น
ต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารรวมบริษัทในเครือเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 4.44 หมื่นล้านบาท(+21%YoY และ +6% QoQ) คิดเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารต่อยอดขายที่ 20.3% (เทียบกับ 20.4% ใน 4Q64 และ 20.2% ใน 3Q65) โดยรวมแล้วปี 2565 สัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านการขายและการบริหารต่อยอดขายอยู่ที่ 20.0% (เทียบกับ 20.7% ปี 2564) เนื่องจากมีต้นทุนค่าจ้างพนักงานและค่าสาธารณูปโภคสูงขึ้น
อนุมัติจ่ายเงินปันผล
คณะกรรมการของ CPALL อนุมัติจ่ายเงินปันผลที่ 0.75 บาทต่อหุ้น (XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2566) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 1.2% จากราคาปิดล่าสุด
Valuation
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ”CPALL ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 74.00 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่าง MAKRO และ CPALL)
Risk
เศรษฐกิจชะลอตัวลง การขยายสาขาใหม่ช้ากว่าแผนที่วางไว้ disruption จากเทคโนลยีใหม่มาใช้ ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์จากภาครัฐ ถูกยกเลิกการใช้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และความเสี่ยงด้าน logistic