CSC แนวโน้มผลประกอบการปี 66 โตต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัว
บริษัทรายงานรายได้จากการขายและบริการช่วง 4Q65 เท่ากับ 855 ลบ. +12%YoY -7%QoQ ต่ำกว่าคาด 13% และสวนทางกับยอดผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่โต 11%YoY และ 32%QoQ
เนื่องจากลูกค้าเร่งคำสั่งซื้อไปช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ยังมีสต็อกคงเหลือ และชะลอคำสั่งซื้อในช่วง 4Q65 ลดลง ขณะที่ %GPM ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนสู่ระดับ 10.9% (4Q64 = 8.4%, 3Q65 = 12.6%) ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 12.9% แม้ราคาต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยปรับลง 8%QoQ (Figure 3) อย่างไรก็ตาม %GPM ถูกกดดันจากยอดขายที่ชะลอลง ประกอบกับต้นทุนคงที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% ทำให้เกิด Diseconomies of Scale ส่งผลให้งวด 4Q65 บริษัทมีกำไรสุทธิ 40 ลบ. +34%YoY -27%QoQ ต่ำกว่าที่คาด 37% ส่วนทั้งปี 2565 บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิ 3,691 ลบ. +28%YoY และ 246 ลบ. +27%YoY ตามลำดับ ต่ำกว่าที่คาด 9%
• ปรับประมาณการรายได้และกำไรปี 66 เพิ่มขึ้น 4.7% เติบโต 11.3% และ 22% ตามลำดับ ตามอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัว: เราปรับประมาณการรายได้ปี 66 เพิ่มขึ้น 4.7% สู่ 4,109 ลบ. +11.3%YoY มีทิศทางเติบโตดีต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นตัว (Figure 2) ตามสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ การเปิดประเทศเต็มรูปแบบ และสถานบันเทิง อาทิ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ กลับมาเปิดให้บริการตามปกติเต็มปี จากปี 65 ที่สถานบันเทิงกลับมาเปิดให้บริการตามปกติเพียงช่วงครึ่งปีหลัง โดยภาครัฐประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 65 ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการใช้ฝาปิดภาชนะ อาทิ เครื่องดื่มอัดลม สุรา เบียร์ โซดา และเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เป็นต้น ส่วนแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยังขยายตัวดีเช่นกัน สนับสนุนการใช้ฝาปิดภาชนะ อาทิ น้ำดื่ม น้ำผลไม้ และนมถั่วเหลือง เป็นต้น ขณะที่ %GPM คาดจะปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 14.7% จากปี 65 อยู่ที่ระดับ 13.6% เริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 (%GPM ปี 60-62 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 15.9%) โดยดีขึ้นจากแนวโน้มราคาวัตถุดิบในปี 66 ที่คาดจะปรับลงเฉลี่ย 8%YoY (Figure 3) ประกอบกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกิด Economies of Scale ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิปี 66 ราว 300 ลบ. (ปรับเพิ่มขึ้น 4.7%) +22%YoY
• คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 66.25 บาท: เราคงประเมินราคาเหมาะสม CSC ตามเดิมที่ราว 66.25 บาท โดยอิง Prospected PE ที่ระดับเดิม 12x (1.5SD+3Yr.-Avg PE) และคาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นปี 66 ราว 5.7 บาท เติบโตกว่า 20% จากอุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่ฟื้นโตดี และ %GPM ที่มีพัฒนาการดีขึ้น โดยราคาหุ้นมีอัพไซต์ราว 35% พร้อมคาดการณ์อัตราปันผลที่ระดับราว 5% ต่อปี เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
1) สถานการณ์ COVID-19 ที่ยืดเยื้อ
2) ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ
3) สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น
4) ภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุบัติเหตุ และอัคคีภัย