วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (23 มี.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% สู่ระดับ 4.75 -5.00% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ประมาณการการขึ้นดอกเบี้ย (Dot Plot) ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยเป้าหมายจะอยู่ที่ระดับ 5.1 % ในช่วงสิ้นปี 2566 และปรับลดลงสู่ระดับ 4.3 % ในสิ้นปี 2567

+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลง ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาถูกลง และน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น 

- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานสต็อกน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 มี.ค. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 481.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขส่งออกน้ำมันเบนซินจีนไปอิรักเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้นผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการส่งออกน้ำมันของจีนมีแนวโน้มปรับตัวลดลงโดยคาดว่าเพื่อรองรับอุปสงค์ช่วงเทศกาลในอิรัก อย่างไรก็ตาม การส่งออกมีแนวโน้มลดลงเป็นปกติหลังอุปสงค์ภายในจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในฝรั่งเศสยังคงตึงตัว จากผลกระทบของการประท้วงแผนปฏิรูปเงินบำนาญของรัฐบาล