วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (24 มี.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสหรัฐฯ จะยังคงไม่ซื้อน้ำมันดิบ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบคงคลังเชิงยุทธศาสตร์ (SPR) ในเร็วๆนี้
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลด หลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยว่าการซื้อน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มระดับน้ำมันดิบคงคลังเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ (SPR) จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและใช้เวลาหลายปี หลังจากที่เคยวางแผนการซื้อน้ำมันดิบที่ระดับต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในช่วงก่อนหน้า
+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน นับตั้งแต่ 3 ก.พ.66 เมื่อเทียบกับสกุลอื่น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ส่งสัญญาณว่าอาจหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ส่งผลให้สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มีราคาถูกลง และมีความน่าสนใจในการลงทุนเพิ่มขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
+ โกลด์แมน แซคส์ เผยว่า ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องในจีน ซึ่งช่วยสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันดิบในภูมิภาค โดยจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก และมีความต้องการน้ำมันมากกว่า 16 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 6.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 229.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 64 ขณะที่การส่งออกน้ำมันของจีนโดยรวมยังมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังอุปสงค์ภายในจีนฟื้นตัวต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์อุปสงค์ว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่อุปทานในฝรั่งเศสยังคงตึงตัว จากผลกระทบของการประท้วงแผนปฏิรูปเงินบำนาญของรัฐบาล