TACC - โตไปพร้อมกับ CP (3 เมษายน 2566)
TACC ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% สำหรับปีนี้ – ธุรกิจ B2B ขยายตัวดีขึ้นทั้งจาก 7-Eleven ตามจำนวนสาขาในประเทศ (+700 สาขาต่อปี) และต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น (สาขา ณ เดือนมี.ค. กัมพูชา – 48 สาขา)
ซึ่งรายได้ส่วนนี้ยังเป็นสัดส่วนสำคัญของการเติบโตของ TACC – 93% ของรายได้รวม
ส่วนธุรกิจ B2C น่าจะเห็นการเติบโตมากขึ้นสำหรับธุรกิจคาเฟ่จากร้านกาแฟ Jungle ใน Lotus’s go fresh, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, Arabitia, Black canyon ขณะที่ธุรกิจ license ตัวละครฟื้นตัวได้ต่อเนื่องตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยทาง TACC ยังคงเป็นพันธมิตรกับ Line creators TH, หมาจ๋า, Rilakkuma SAN-X เน้นตลาดต่างประเทศ – สิงค์โปร์ มาเลเซีย และ CLMV เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเริ่มขยายตลาดไปสู่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นสำหรับตัวละครหมาจ๋า สำหรับใน 2Q23 น่าจะได้เห็นสินค้าในกลุ่ม Line creators รวมถึงความคืบหน้าจากการเข้าสุ่ธุรกิจ Health & wellness ด้วย
คาดอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32% – ต้นทุนสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น 4Q22 ลดลงเหลือ 31% จาก 35% ใน 3Q22 โดยทาง TACC ได้มีการเริ่มเจรจาด้านการปรับราคาซึ่งน่าจะทำให้กำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น รวมถึงแนวโน้มราคาวัตถุดิบค่อยๆ ปรับลง ซึ่งน่าจะเห็น GP ปรับดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี เนื่องจากต้นทุนในช่วงครึ่งปีแรกยังใกล้เคียงกับช่วงปลายปี 2022 ซึ่งยังจะทำให้ต้นทุนในช่วง 1H23 ยังคงสูง
Analysis
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อ TACC หลังจากงาน Opportunity day เรามองว่าผลรายได้สามารถฟื้นตัวต่อได้ทั้ง yoy และ qoq จากกิจกรรมในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น รายได้จากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับลดลงจะยังส่งผลต่อกำไรรวมถึงการปรับตัวของราคา TACC ในระยะสั้น หากมองต่อไปข้างหน้า การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง CPALL จะเป็นตัวช่วยให้ TACC เติบโตได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus อยู่ที่ Bt8.8 ต่อหุ้น (BUY / HOLD / SELL: 5 / 0 / 0)