บรรยากาศบวก แม้อัพไซด์ตลาดระยะสั้นจำกัด หลังใกล้ 1,600 และหยุดยาว
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป ปัจจัยภายนอกโดยรวมผสมผสาน แต่เรามองโน้มเอียงไปในทางบวกต่อบรรยากาศลงทุน จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ร้อนแรงเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกับย่ำแย่
โดยประเด็นสำคัญที่มีผลต่อภาพตลาดระยะสั้นได้แก่ 1) ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) คนใหม่ แถลงยืนยันจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินตามเดิม ซึ่งจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระยะใกล้ๆนี้ 2) ธนาคารโลก (World Bank) ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลก ปี 2566 เพิ่มเป็น 2% จากเดิม 1.7% โดยมองปัจจัยหลักมาจากการเปิดประเทศของจีน (ปรับเพิ่ม GDP จีน ขึ้นเป็น 5.1% จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 4.3%) 3) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดเปิดเผยรายงานเศรษฐกิจรายไตรมาส (World Economic Outlook) ฉบับใหม่วันนี้ เราคาดภาพรวมคล้ายกับรายงานของ OECD, ADB และ World Bank คือ แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จะลดลง แต่เป็นภาพที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า และ 4) เงินเฟ้อสหรัฐฯ 12 เม.ย. คาด CPI มี.ค. ออกมา +0.2% MoM และ 5.1% YoY (ชะลอจาก ก.พ.ที่ +0.4% moM และ +6.0% YoY)
ยังมองธีมการลงทุนเป็นการหมุนออกจากดอกเบี้ยขาขึ้น เข้าสู่ดอกเบี้ยใกล้สูงสุด เรามองธีมการลงทุนที่น่าสนใจได้แก่ 1) เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงและต้นทุนสินค้าต่างๆที่ชะลอลงตามราคาพลังงาน จะเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้บริโภค ส่งผลบวกต่อหุ้นค้าปลีก 2) การเข้าใกล้จุดสูงสุดของวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ย จะจำกัดการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะส่งผลบวกต่อหุ้นปลอดภัย (Defensive) ทั้งหุ้นไฟฟ้า สาธารณูปโภค รวมถึงสื่อสาร 3) การย้ายฐานการผลิต เพื่อลดความเสี่ยงความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งกระแสการลงทุนใน EV บวกต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม 4) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนการผลิตที่ลดลง โดยมีหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ CPALL, MAKRO, BJC, WHA, AMATA, ROJNA, PTG, OR, MAJOR, SPA, ERW, VRANDA, BGC, M, SORKON, SNP, BGRIM, GPSC, GULF, GUNKUL, ADVANC
ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศเก็งกำไรระยะสั้นเป็นบวก แม้ภาพรวมตลาดระยะสั้นยังอาจผันผวนจากปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบ เก็งกำไรระยะสั้น อาจเลือกไฟแนนซ์ตัวเล็กที่ยัง Laggard น้ำตาลและกลุ่มไฟฟ้าหมุนเวียน ขณะที่การลงทุนเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned)
หุ้นแนะนำ: AMANAH*, SCAP*, ROJNA*, KSL*
แนวรับ: 1,577 / แนวต้าน : 1,604-1,623 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
เวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกโต 2% ปีนี้ – ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 2% จากเดิมที่ระดับ 1.7%
สหรัฐเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.1% - สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 0.4%
อินโดนีเซียเตรียมเสนอทำข้อตกลงการค้าเสรีด้านสินแร่สำหรับรถ EV กับสหรัฐ - ทำข้อตกลงการค้าเสรีสำหรับสินแร่บางชนิดที่ได้จัดส่งให้กับสหรัฐ เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศได้รับประโยชน์จากเครดิตภาษีของสหรัฐ
แบงก์เล็กของจีนลดดอกเบี้ยเงินฝากตามแบงก์ใหญ่ - ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กบางแห่งของจีนตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเมื่อช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามรอยธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำไปเมื่อปีที่แล้ว หลังการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หลายต่อหลายครั้งได้เริ่มลดทอนผลกำไร
GPSC เผย Avaada ชนะประมูลโซลาร์ฯ ในอินเดีย กำลังการผลิต 421 เมกะวัตต์ - GPSC ประกาศชัยชนะของ Avaada Energy ในโอกาสคว้าโครงการโซลาร์ กำลังการผลิต 421 เมกะวัตต์ ดันกำลังการผลิตในประเทศอินเดียพุ่งสูงกว่า 5,000 เมกะวัตต์ เดินหน้าสู่เป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานสะอาดมากกว่า 50% ในปี 2573
ประเด็นติดตาม: 12 เม.ย. - US CPI, FOMC Meeting Minutes / 13 เม.ย. - US PPI / 14 เม.ย. - US Retail Sales / 18 เม.ย. – US Building Permits / 19 เม.ย. – EU CPI / 20 เม.ย. – US Existing Home Sales / 25 เม.ย. – US New Home Sales
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)